
การสูญเสียฟันแท้ไป ไม่ว่าจะจากอุบัติเหตุ ฟันผุ หรือโรคเหงือก นอกจากจะส่งผลต่อการบดเคี้ยวอาหารแล้ว ยังทำให้สูญเสียความมั่นใจในการยิ้มและการพูดคุยอีกด้วย หากปล่อยช่องว่างไว้นาน อาจทำให้ฟันซี่ข้างเคียงขยับหรือ ฟันล้ม เข้าหาช่องว่างนั้น ส่งผลกระทบต่อการสบฟันโดยรวม
หนึ่งในวิธีทดแทนฟันที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพคือการทำสะพานฟัน (Dental Bridge) ซึ่งเป็นวิธีที่รวดเร็วและให้ความสวยงามเป็นธรรมชาติ สำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีเติมเต็มช่องว่างของฟัน Teeth Talk Dental Clinic ได้รวบรวมทุกเรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับสะพานฟัน ทั้งข้อดี-ข้อเสีย ราคา และขั้นตอนการรักษามาแล้ว ลองพิจารณาดูได้เลยว่าคุณเหมาะกับวิธีนี้หรือเปล่า!
สะพานฟัน คืออะไร?
สะพานฟัน คือ การทำฟันปลอมแบบติดแน่นชนิดหนึ่งที่ใช้ทดแทนฟันแท้ที่สูญเสียไปตั้งแต่ 1 ซี่ขึ้นไป โดยมีหลักการทำงานเหมือน “สะพาน” ที่เชื่อมช่องว่างระหว่างฟัน โดยอาศัยฟันธรรมชาติที่แข็งแรงซี่ข้างเคียง (ซ้ายและขวา) เป็นหลักในการยึดเกาะ ทำให้ได้ฟันซี่ใหม่ที่ติดแน่นในช่องปาก ไม่สามารถถอดเข้า-ออกได้เอง ช่วยคืนการบดเคี้ยวและความสวยงามได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สะพานฟันมีกี่ส่วนประกอบ?

เพื่อให้เข้าใจการทำงานของสะพานฟันมากขึ้น เราสามารถแบ่งส่วนประกอบหลัก ๆ ของสะพานฟันได้ 2 ส่วน ดังนี้
1. ฟันหลักยึด (Abutment)
คือ ฟันธรรมชาติซี่ที่อยู่ข้างเคียงช่องว่าง (หรืออาจเป็นรากฟันเทียม) ซึ่งจะทำหน้าที่เป็น “เสาตอม่อ” ของสะพาน ฟันซี่นี้จะถูกเตรียมผิวฟันหรือกรอเล็กน้อยเพื่อรองรับการสวมครอบฟัน (Crown) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสะพานฟัน เพื่อให้ยึดติดกันอย่างแน่นหนา
2. ฟันลอย (Pontic)
คือ ฟันซี่ทดแทนหรือ “ตัวสะพาน” ที่จะถูกวางลงในตำแหน่งช่องว่างที่ฟันหายไป โดยฟันซี่นี้จะยึดติดอยู่กับฟันหลักยึดทั้งสองด้าน ทำให้ดูเหมือนมีฟันซี่ใหม่งอกขึ้นมาทดแทนอย่างเป็นธรรมชาติ
สะพานฟันเหมาะกับใคร?
การทำสะพานฟันเป็นทางเลือกที่ดี แต่ก็ไม่ได้เหมาะกับทุกคน โดยทันตแพทย์จะแนะนำสำหรับผู้ที่มีลักษณะดังนี้
- ผู้ที่สูญเสียฟันแท้ไป 1-2 ซี่ หรือมากกว่านั้น โดยที่ฟันซี่ที่หายไปอยู่ติดกัน
- ผู้ที่มีฟันธรรมชาติซี่ข้างเคียงช่องว่างที่แข็งแรงเพียงพอที่จะใช้เป็นหลักยึดได้
- ผู้ที่ต้องการฟันปลอมแบบติดแน่น ไม่ต้องการถอดเข้า-ออกเหมือนฟันปลอมทั่วไป
- ผู้ที่ต้องการการรักษาที่รวดเร็ว ได้ฟันซี่ใหม่ภายในไม่กี่สัปดาห์
- ผู้ที่ต้องการป้องกันปัญหาฟันซี่ข้างเคียงล้มเอียงเข้าหาช่องว่าง
สะพานฟันมีกี่ประเภท?
สะพานฟันสามารถแบ่งออกเป็นประเภทหลัก ๆ ตามลักษณะการยึดติดได้ดังนี้
1. สะพานฟันแบบดั้งเดิม (Traditional Bridge)
เป็นประเภทที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยจะต้องมีฟันหลักยึดที่แข็งแรงทั้งสองด้านของช่องว่าง (ซ้ายและขวา) เพื่อใช้ครอบฟันและยึดฟันลอย (Pontic) ที่อยู่ตรงกลาง เป็นวิธีที่ให้ความแข็งแรงทนทานสูงมาก
2. สะพานฟันแบบยึดข้างเดียว (Cantilever Bridge)
ใช้ในกรณีที่มีฟันหลักยึดเพียงด้านเดียวของช่องว่างเท่านั้น สะพานฟันจะยื่นออกมาจากฟันหลักยึดเพียงซี่เดียวเพื่อทดแทนฟันที่หายไป วิธีนี้ไม่แข็งแรงเท่าแบบดั้งเดิม ทันตแพทย์จึงมักเลือกใช้ในบริเวณที่รับแรงบดเคี้ยวไม่หนักมาก
3. สะพานฟันแบบแมรี่แลนด์ (Maryland Bridge)
สะพานฟันประเภทนี้จะไม่ใช้วิธีสวมครอบฟันลงบนฟันหลักยึด แต่จะใช้ “ปีก” ที่ทำจากโลหะหรือเซรามิก ยึดติดที่ด้านหลังของฟันหลักยึดแทน ข้อดีคือแทบไม่ต้องกรอฟันธรรมชาติเลย แต่ความแข็งแรงในการยึดติดก็น้อยกว่าสองแบบแรก จึงมักใช้ทดแทนฟันหน้าที่เสียไป
วัสดุที่ใช้ทำสะพานฟัน มีกี่ประเภท?

วัสดุที่เลือกใช้จะมีผลต่อความสวยงาม ความแข็งแรง และราคา โดยหลัก ๆ มีดังนี้
1. เซรามิกล้วน (All-Ceramic หรือ Zirconia)
เป็นวัสดุที่ให้ความสวยงามเหมือนฟันธรรมชาติมากที่สุด ทั้งสีและความโปร่งแสง ปัจจุบันวัสดุอย่าง Zirconia (เซอร์โคเนีย) มีความแข็งแรงสูงมาก จนสามารถใช้ในบริเวณฟันกรามได้ดี และไม่ก่อให้เกิดขอบเหงือกดำเมื่อใช้ไปนานๆ
2. โลหะเคลือบเซรามิก (PFM – Porcelain-fused-to-metal)
เป็นวัสดุมาตรฐานที่ใช้กันมานาน โดยมีโครงด้านในเป็นโลหะเพื่อความแข็งแรง และเคลือบด้านนอกด้วยเซรามิกเพื่อให้สีเหมือนฟัน มีความแข็งแรงสูง แต่เมื่อใช้ไปนาน ๆ อาจเห็นขอบสีคล้ำของโลหะบริเวณคอฟันได้
3. โลหะล้วน (Full Metal / Gold Alloy)
เป็นวัสดุที่แข็งแรงทนทานที่สุด เหมาะสำหรับบริเวณฟันกรามซี่ในสุดที่ต้องรับแรงบดเคี้ยวหนักมาก แต่ข้อจำกัดคือสีของโลหะที่เห็นได้ชัดเจน จึงไม่เป็นที่นิยมในปัจจุบันที่เน้นความสวยงาม
ขั้นตอนการทำสะพานฟัน (ใช้เวลาประมาณ 2-3 ครั้ง)
ที่ Teeth Talk Dental Clinic ขั้นตอนการทำสะพานฟัน จะถูกวางแผนอย่างรัดกุมโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 2-3 ครั้งนัดหมาย ดังนี้
1. ปรึกษาและเตรียมฟัน (นัดครั้งที่ 1)
ทันตแพทย์จะตรวจประเมินสุขภาพช่องปากและฟันซี่ข้างเคียง เอกซเรย์เพื่อดูสภาพกระดูกและรากฟัน หากสามารถทำได้ ทันตแพทย์จะทำการเตรียมฟัน (กรอแต่ง) ซี่ที่จะใช้เป็นหลักยึด จากนั้นจะพิมพ์ปาก (หรือสแกนฟัน 3 มิติ) เพื่อส่งแล็บทันตกรรมผลิตสะพานฟันตัวจริง และจะทำการใส่สะพานฟันแบบชั่วคราวให้กลับไปใช้งานก่อน
2. ใส่สะพานฟันตัวจริง (นัดครั้งที่ 2)
เมื่อได้สะพานฟันตัวจริงจากแล็บ (ใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์) ทันตแพทย์จะนัดมาเพื่อรื้อสะพานฟันชั่วคราวออก ลองสะพานฟันตัวจริง ตรวจสอบความแนบสนิท การสบฟัน และสีสัน เมื่อทุกอย่างสมบูรณ์แบบ ทันตแพทย์จะยึดสะพานฟันถาวรด้วยซีเมนต์ทันตกรรม
3. นัดติดตามผล
หลังจากใส่สะพานฟันไปแล้วประมาณ 1-2 สัปดาห์ ทันตแพทย์อาจนัดกลับมาเพื่อตรวจเช็กการใช้งาน การสบฟัน และสุขภาพเหงือกบริเวณใต้สะพานฟันอีกครั้ง
ข้อดี-ข้อเสียของการทำสะพานฟัน
การตัดสินใจทำสะพานฟัน ควรพิจารณาทั้งข้อดีและข้อจำกัด ดังนี้
ข้อดีของสะพานฟัน
- ช่วยคืนความสามารถในการบดเคี้ยวอาหารให้กลับมาเป็นปกติ
- คืนความสวยงามและรอยยิ้มที่มั่นใจ
- ป้องกันฟันซี่ข้างเคียงล้มเอียงเข้าหาช่องว่าง
- เป็นฟันปลอมแบบติดแน่น ใช้งานได้สะดวก ไม่ต้องถอดเข้า-ออก
- ขั้นตอนการรักษารวดเร็วกว่าการทำรากฟันเทียม
ข้อเสียและข้อจำกัด (สิ่งที่ต้องพิจารณา)
- จำเป็นต้องกรอฟันธรรมชาติซี่ข้างเคียง ซึ่งเป็นฟันที่อาจจะยังแข็งแรงดีอยู่
- การทำความสะอาดค่อนข้างยาก โดยเฉพาะบริเวณใต้ฟันลอย (Pontic) ซึ่งต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ เช่น ไหมขัดฟันแบบพิเศษ Superfloss
- หากฟันหลักยึดซี่ใดซี่หนึ่งเกิดปัญหา เช่น ผุ หรือเหงือกอักเสบ อาจจะต้องรื้อสะพานฟันทั้งหมดเพื่อรักษา
- ไม่สามารถหยุดการละลายตัวของกระดูกขากรรไกรบริเวณใต้ฟันลอยได้ ต่างจากรากเทียมที่ช่วยกระตุ้นกระดูก
ทำสะพานฟันแล้ว จัดฟันได้ไหม?
โดยทั่วไป ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากสะพานฟันจะยึดฟันหลักยึดและฟันลอยติดกันเป็นชิ้นเดียว ทำให้ไม่สามารถเคลื่อนฟันซี่นั้นๆ ได้ หากมีความต้องการจัดฟัน ควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อวางแผนจัดฟันให้เสร็จเรียบร้อยก่อน แล้วจึงค่อยทำสะพานฟันถาวรเพื่อปิดช่องว่าง
ทำสะพานฟันร่วมกับรากฟันเทียมได้หรือไม่?
สามารถทำได้ และเป็นทางเลือกที่ดีมาก ในกรณีที่ไม่มีฟันธรรมชาติที่แข็งแรงพอจะเป็นหลักยึด หรือในกรณีที่สูญเสียฟันไปหลายซี่ติดกัน ทันตแพทย์สามารถฝังรากฟันเทียมลงไปเพื่อใช้เป็น “เสาตอม่อ” แล้วจึงทำสะพานฟันยึดบนรากฟันเทียมเหล่านั้น วิธีนี้เรียกว่า “Implant-Supported Bridge” ซึ่งข้อดีคือไม่ต้องกรอฟันธรรมชาติเลย
ราคาทำสะพานฟัน ที่ Teeth Talk Dental Clinic
ราคาของสะพานฟันจะขึ้นอยู่กับจำนวนซี่ของสะพานฟัน (นับรวมทั้งฟันหลักยึดและฟันลอย) และประเภทของวัสดุที่เลือกใช้ (เช่น เซรามิกล้วน หรือโลหะเคลือบเซรามิก) โดยที่ Teeth Talk Dental Clinic ราคาทำสะพานฟันจะเริ่มต้นที่ประมาณ 10,000 – 15,000 บาทต่อ Unit
ทำไมต้องทำสะพานฟันที่ Teeth Talk Dental Clinic

การเลือกคลินิกทำฟันที่มีมาตรฐานและทันตแพทย์ที่เชี่ยวชาญ เป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้สะพานฟันของคุณสวยงาม แข็งแรง และอยู่ได้นาน
- ดูแลโดยทีมทันตแพทย์เฉพาะทาง : ที่ Teeth Talk เรามีทีมทันตแพทย์เฉพาะทางด้านทันตกรรมประดิษฐ์ (Prosthodontics) ที่มีความเชี่ยวชาญในการออกแบบและใส่สะพานฟันโดยตรง
- เทคโนโลยีที่ทันสมัย : เราใช้เทคโนโลยีสแกนฟัน 3 มิติ (Digital Scan) ในการพิมพ์ปาก ช่วยให้ได้สะพานฟันที่พอดี แนบสนิทกับขอบเหงือก ลดโอกาสเกิดปัญหาในอนาคต
- วัสดุคุณภาพสูง : เราเลือกใช้วัสดุเซรามิกและเซอร์โคเนียเกรดพรีเมียม ที่ให้ทั้งความแข็งแรงและความสวยงามเหมือนฟันธรรมชาติ
- การวางแผนที่จริงใจ : เราให้คำปรึกษาและเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียของการรักษาแต่ละแบบ (เช่น สะพานฟัน, รากฟันเทียม, ฟันปลอมถอดได้) เพื่อให้คุณเลือกวิธีที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุด
- การดูแลแบบองค์รวม : เราไม่เพียงแต่ทดแทนฟันที่หายไป แต่ยังดูแลสุขภาพเหงือกและฟันซี่อื่นๆ เพื่อให้ผลลัพธ์การรักษายั่งยืน
ที่ Teeth Talk Dental Clinic เราเข้าใจว่าการสูญเสียฟันส่งผลต่อชีวิตมากกว่าที่คิด เราจึงมุ่งมั่นที่จะคืนรอยยิ้มและการใช้งานฟันที่ดีที่สุดให้กับคุณ สำหรับท่านใดที่สนใจ สามารถนัดหมายเข้ามาปรึกษาคุณหมอของเราได้เลย ทีมงานของเราพร้อมให้การดูแลอย่างดีที่สุด
รวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสะพานฟัน
เราได้รวบรวมคำถามที่คนไข้มักสงสัยเกี่ยวกับการทำสะพานฟันมาไว้ที่นี่
1. สะพานฟันอยู่ได้นานกี่ปี?
โดยทั่วไปสะพานฟันมีอายุการใช้งานเฉลี่ย 5-15 ปี หรืออาจนานกว่านั้น ขึ้นอยู่กับการดูแลความสะอาดช่องปากอย่างถูกวิธี สุขภาพของฟันหลักยึด และการตรวจเช็กสุขภาพฟันเป็นประจำ
2. สะพานฟันกับรากฟันเทียม เลือกอะไรดี?
สะพานฟันจะทำได้เร็วกว่าและค่าใช้จ่ายเริ่มต้นอาจน้อยกว่า (หากเทียบ 1 ซี่) แต่ต้องกรอฟันข้างเคียง ส่วนรากฟันเทียมจะใช้เวลานานกว่าและราคาสูงกว่า แต่เป็นวิธีที่อนุรักษ์ฟันซี่อื่นไว้ได้ดีที่สุดและช่วยรักษาปริมาณกระดูกขากรรไกร ทันตแพทย์จะช่วยประเมินตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคล
3. การดูแลสะพานฟันที่ยากที่สุดคืออะไร?
คือการทำความสะอาดบริเวณ “ใต้” ฟันลอย (Pontic) ที่ติดกับเหงือก ซึ่งแปรงสีฟันปกติเข้าไม่ถึง จำเป็นต้องใช้ไหมขัดฟันแบบพิเศษ (Superfloss) หรือแปรงซอกฟัน เพื่อป้องกันเศษอาหารติดค้างและเหงือกอักเสบ
4. ควรเลือกทำสะพานฟันที่ไหนดี?
ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีทันตแพทย์เฉพาะทางด้านทันตกรรมประดิษฐ์ ใช้เทคโนโลยีที่แม่นยำในการพิมพ์ปาก (เช่น สแกน 3 มิติ) และเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูง
สรุป สะพานฟัน ทางเลือกทดแทนฟันที่รวดเร็วและสวยงาม
สะพานฟัน เป็นทางเลือกการทดแทนฟันแบบติดแน่นที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยแก้ปัญหาช่องว่างระหว่างฟัน คืนความสามารถในการบดเคี้ยว และเรียกความมั่นใจกลับคืนมาได้อย่างรวดเร็ว แม้จะมีข้อจำกัดเรื่องการกรอฟันข้างเคียงและการดูแลที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ แต่ก็ถือเป็นหนึ่งในมาตรฐานการรักษาที่ดีเยี่ยม
หากคุณกำลังมีปัญหาฟันหาย หรือไม่มั่นใจว่าควรเลือกการรักษาแบบใด ให้ Teeth Talk Dental Clinic ช่วยดูแล สามารถนัดหมายเข้ามาปรึกษาและประเมินสภาพฟันกับทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเราได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ติดต่อได้เลยที่เบอร์โทร 099-113-8103 หรือ Line : @teethtalk หรือ Facebook Page : “Teeth Talk Dental Clinic คลินิกทันตกรรม จัดฟัน ทำฟัน” ทีมงานของเราพร้อมดูแลและมอบรอยยิ้มที่มั่นใจให้กับคุณ

































