
การสูญเสียฟันไม่ว่าจะจากอุบัติเหตุ ฟันผุ หรืออายุที่มากขึ้น อาจทำให้หลายคนสูญเสียความมั่นใจในการยิ้มและการใช้ชีวิต แต่ปัญหานี้แก้ไขได้ด้วย ฟันปลอม ซึ่งไม่ได้เป็นเรื่องไกลตัวหรือจำกัดอยู่แค่ในผู้สูงอายุอีกต่อไป ปัจจุบันมีนวัตกรรมฟันปลอมให้เลือกหลากหลายรูปแบบที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย บทความนี้ Teeth Talk Dental Clinic ได้รวบรวมทุกคำตอบที่คุณสงสัยมาไว้ในที่เดียว ตั้งแต่ฟันปลอมมีกี่แบบ แต่ละชนิดแตกต่างกันอย่างไร ราคาเท่าไหร่ และจะเลือกแบบไหนให้เหมาะกับคุณที่สุด เพื่อให้คุณกลับมามีรอยยิ้มที่สวยงามและใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอีกครั้ง
ทำไมต้องใส่ฟันปลอม?
การปล่อยช่องว่างของฟันที่สูญเสียไปทิ้งไว้นาน ๆ อาจส่งผลกระทบมากกว่าที่คิด การใส่ฟันปลอมจึงมีความสำคัญมากกว่าแค่เรื่องความสวยงาม แต่ยังจำเป็นต่อสุขภาพช่องปากโดยรวมด้วยเหตุผลเหล่านี้
- เพื่อการบดเคี้ยวที่ดีขึ้น : การมีฟันครบทุกซี่ช่วยให้บดเคี้ยวอาหารได้ละเอียด ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น และเพลิดเพลินกับมื้ออาหารได้อย่างเต็มที่
- เพื่อความสวยงามและบุคลิกภาพ : ฟันปลอมช่วยเติมเต็มช่องว่างในรอยยิ้ม เสริมสร้างความมั่นใจ และยังช่วยพยุงกล้ามเนื้อใบหน้าไม่ให้หย่อนคล้อย ซึ่งช่วยรักษารูปหน้าให้ดูเป็นธรรมชาติ
- เพื่อการออกเสียงที่ชัดเจน : ฟันเป็นส่วนประกอบสำคัญในการออกเสียงพยัญชนะบางตัว การใส่ฟันปลอมจะช่วยให้คุณกลับมาพูดคุยสื่อสารได้อย่างชัดเจนและมั่นใจ
- เพื่อป้องกันปัญหาฟันล้ม : หากปล่อยให้มีช่องว่าง ฟันซี่ข้างเคียงจะค่อย ๆ เคลื่อนหรือล้มเข้าหาช่องว่างนั้น ซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหาการสบฟันที่ซับซ้อนและทำความสะอาดยากในอนาคต
ฟันปลอมมีกี่แบบ?

ฟันปลอมในปัจจุบันถูกพัฒนาให้มีความหลากหลายเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกัน โดยสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ ฟันปลอมแบบถอดได้ และฟันปลอมแบบติดแน่น
1. ฟันปลอมแบบถอดได้ (Removable Dentures)
เป็นฟันปลอมที่สามารถใส่และถอดออกมาทำความสะอาดเองได้ เหมาะสำหรับผู้ที่สูญเสียฟันบางซี่ไปจนถึงสูญเสียฟันทั้งหมด แบ่งย่อยตามวัสดุของฐานได้ดังนี้
ฟันปลอมฐานอะคริลิก (Acrylic Base)
เป็นฟันปลอมแบบถอดได้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากมีราคาไม่สูงและใช้เวลาทำไม่นาน ตัวฐานทำจากพลาสติกสีคล้ายเหงือก มีตะขอโลหะสำหรับยึดเกาะกับฟันซี่ข้างเคียง เหมาะสำหรับใช้เป็นฟันปลอมชั่วคราวระหว่างรอการรักษาอื่น หรือใช้ทดแทนฟันหลาย ๆ ซี่
ฟันปลอมฐานโลหะ (Metal Base)
มีความแข็งแรงทนทานและบางกว่าฟันปลอมฐานอะคริลิก ทำให้ผู้ใช้รู้สึกสบายและรำคาญน้อยกว่า โครงสร้างหลักทำจากโลหะทางการแพทย์ที่ไม่เป็นสนิม ช่วยให้การบดเคี้ยวมีประสิทธิภาพใกล้เคียงฟันธรรมชาติมากขึ้น และยังนำความร้อน-เย็นได้ดี ทำให้รับรู้รสชาติอาหารได้ดีกว่า
ฟันปลอมแบบยืดหยุ่น (Flexible Dentures)
เป็นตัวเลือกที่ทันสมัย ทำจากวัสดุประเภทไนล่อนที่มีความยืดหยุ่นสูง ไม่มีตะขอโลหะที่มองเห็นได้ ทำให้มีความสวยงามเป็นธรรมชาติมาก น้ำหนักเบา และใส่สบายกว่าฐานอะคริลิกแบบแข็ง เหมาะสำหรับผู้ที่สูญเสียฟันไม่มากนักและกังวลเรื่องความสวยงาม
2. ฟันปลอมแบบติดแน่น (Fixed Dentures)
เป็นฟันปลอมที่ยึดติดถาวรในช่องปาก ให้ความรู้สึกและการใช้งานที่ใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติมากที่สุด ไม่ต้องกังวลเรื่องฟันปลอมหลวมหรือหลุดระหว่างใช้งาน
สะพานฟัน (Dental Bridge)
เป็นการทดแทนฟันที่สูญเสียไป 1-2 ซี่ โดยใช้ฟันธรรมชาติซี่ข้างเคียงเป็นหลักในการยึดสะพานฟันทันตแพทย์จะกรอฟันซี่ข้างเคียงเพื่อใช้สวมครอบฟันที่เชื่อมติดกับฟันปลอมซี่กลาง ให้ผลลัพธ์ที่สวยงามและแข็งแรง
รากฟันเทียม (Dental Implant)
ถือเป็นวิธีทดแทนฟันที่ดีและใกล้เคียงฟันธรรมชาติที่สุด โดยทันตแพทย์จะฝังรากฟันเทียมที่ทำจากไทเทเนียมลงไปในกระดูกขากรรไกรเพื่อทำหน้าที่แทนรากฟันจริง จากนั้นจึงยึดฟันปลอมหรือครอบฟันไว้ด้านบน ให้ความแข็งแรงทนทานสูงสุดและยังช่วยรักษากระดูกขากรรไกรไม่ให้ละลายตัว
ฟันปลอมแบบสวมทับบนรากเทียม (Implant-Supported Overdenture)
เป็นนวัตกรรมที่ผสมผสานข้อดีของฟันปลอมแบบถอดได้และรากเทียมเข้าด้วยกัน เหมาะสำหรับผู้ที่สูญเสียฟันไปทั้งหมดและมีปัญหาฟันปลอมล่างหลวม โดยจะมีการฝังรากฟันเทียม 2-4 ตัวเพื่อใช้เป็นหลักยึด ฟันปลอมแบบสวมทับ ทำให้ฟันปลอมแน่นกระชับ ไม่ขยับ แต่ยังสามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้
ตารางเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียของฟันปลอมแต่ละแบบ
เพื่อให้คุณเห็นภาพความแตกต่างของฟันปลอมแต่ละชนิดได้อย่างชัดเจน และใช้เป็นข้อมูลเบื้องต้นในการตัดสินใจ Teeth Talk Dental Clinic ได้สรุปจุดเด่นและข้อควรพิจารณาของฟันปลอมแต่ละแบบมาให้ในตารางเดียว
| ประเภทฟันปลอม | จุดเด่น (ข้อดี) | ข้อควรพิจารณา (ข้อเสีย) | เหมาะกับใคร? |
| ฟันปลอมแบบถอดได้ (Removable Dentures) | |||
| ฐานอะคริลิก | ราคาเข้าถึงง่ายที่สุด ขั้นตอนการทำไม่ซับซ้อน | ค่อนข้างหนา อาจรู้สึกรำคาญ อาจมองเห็นตะขอโลหะประสิทธิภาพการเคี้ยวไม่สูง | ผู้ที่ต้องการฟันปลอมชั่วคราวผู้ที่สูญเสียฟันหลายซี่และมีงบจำกัด |
| ฐานโลหะ | บางกว่า แข็งแรงทนทานแนบกับเหงือกได้ดีกว่ารับรู้รสชาติและอุณหภูมิอาหารได้ดี | ราคาสูงกว่าอะคริลิกอาจมองเห็นตะขอโลหะใช้เวลาทำนานกว่า | ผู้ที่ต้องการฟันปลอมถอดได้ที่ใช้งานได้ดีในระยะยาว และรู้สึกสบายกว่า |
| แบบยืดหยุ่น | ไม่มีตะขอโลหะ สวยงามที่สุด น้ำหนักเบา ยืดหยุ่น ใส่สบาย | ไม่สามารถซ่อมแซมหรือเติมฟันได้ราคาสูงกว่าอะคริลิกอาจเปลี่ยนสีได้เมื่อใช้ไปนาน ๆ | ผู้ที่สูญเสียฟันไม่กี่ซี่ และให้ความสำคัญกับความสวยงามเป็นหลัก |
| ฟันปลอมแบบติดแน่น (Fixed Dentures) | |||
| สะพานฟัน | ยึดติดแน่น ใช้งานเหมือนฟันจริงสวยงามเป็นธรรมชาติไม่ต้องถอดเข้า-ออก | ต้องกรอเนื้อฟันซี่ข้างเคียงทำความสะอาดยากกว่าไม่เหมาะกับกรณีสูญเสียฟันหลายซี่ติดกัน | ผู้ที่สูญเสียฟัน 1-2 ซี่ และมีฟันข้างเคียงที่แข็งแรงพอที่จะเป็นหลักยึดได้ |
| รากฟันเทียม | แข็งแรงและใกล้เคียงฟันธรรมชาติที่สุดช่วยรักษากระดูกขากรรไกรไม่ต้องกรอฟันข้างเคียง | ราคาสูงที่สุดใช้ระยะเวลาในการรักษานานต้องผ่าตัดเล็กเพื่อฝังรากเทียม | ผู้ที่ต้องการการทดแทนฟันที่ดีที่สุดและใช้งานได้เสมือนฟันแท้ในระยะยาว |
| ฟันปลอมแบบสวมทับ | แก้ปัญหาฟันปลอมหลวมได้ดีเยี่ยมแน่นกระชับ เคี้ยวได้มั่นใจยังถอดมาทำความสะอาดได้ | ราคาสูงกว่าฟันปลอมถอดได้ทั่วไปต้องผ่าตัดเพื่อฝังรากเทียมมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา | ผู้ที่สูญเสียฟันทั้งหมด โดยเฉพาะฟันล่าง และมีปัญหาฟันปลอมหลวม ไม่กระชับ |
หมายเหตุ : ตารางนี้เป็นเพียงแนวทางเบื้องต้น การเลือกฟันปลอมที่เหมาะสมที่สุดควรมาจากการตรวจประเมินและรับคำแนะนำจากทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้แผนการรักษาที่ตอบโจทย์กับสภาพช่องปากและไลฟ์สไตล์ของคุณมากที่สุด
เลือกฟันปลอมอย่างไรให้เหมาะกับคุณ?
การเลือกฟันปลอมที่เหมาะสมที่สุดนั้นไม่มีคำตอบตายตัว แต่ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยร่วมกัน ทั้งจำนวนฟันที่สูญเสียไป สภาพกระดูกขากรรไกร งบประมาณ และไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต สิ่งสำคัญที่สุดคือการเข้ามาปรึกษาทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจประเมินอย่างละเอียด ทันตแพทย์จะสามารถให้คำแนะนำถึงทางเลือกที่เป็นไปได้ทั้งหมด พร้อมอธิบายข้อดี-ข้อเสียของแต่ละแบบ เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกฟันปลอมที่ตอบโจทย์และดีที่สุดสำหรับตัวคุณเอง
ทำฟันปลอมราคาเท่าไหร่?
เพื่อให้คุณสามารถวางแผนค่าใช้จ่ายเบื้องต้นได้ Teeth Talk Dental Clinic ได้รวบรวมอัตราค่าบริการทำฟันปลอมประเภทต่าง ๆ มาให้ดังนี้
| ประเภทบริการ | อัตราค่าบริการโดยประมาณ (บาท) |
| ฟันปลอมแบบถอดได้ (Removable Dentures) | |
| ฐานอะคริลิก (ซี่แรก) | 3,000 |
| ฐานโลหะ (ซี่แรก) | 8,000 |
| ฟันปลอมแบบยืดหยุ่น (ซี่แรก) | 6,000 |
| ฟันปลอมทั้งปากฐานอะคริลิก | 15,000 |
| ฟันปลอมแบบติดแน่น (Fixed Dentures) | |
| สะพานฟัน (ต่อซี่) | 10,000 – 15,000 |
| รากฟันเทียม (รวมครอบฟัน) | 25,000 – 35,000 |
หมายเหตุ : อัตราค่าบริการอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของแต่ละกรณี ควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อประเมินราคาที่แน่นอนอีกครั้ง
สามารถเช็กอัตราค่าบริการทำฟัน และโปรโมชันล่าสุดได้ที่นี่เลย
ทำไมต้องทำฟันปลอมที่ Teeth Talk Dental Clinic?

ที่ Teeth Talk Dental Clinic เราเข้าใจดีว่าการทำฟันปลอมเป็นการลงทุนเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาว เราจึงใส่ใจในทุกรายละเอียดเพื่อให้คุณได้รับสิ่งที่ดีที่สุด
- ดูแลโดยทีมทันตแพทย์เฉพาะทาง : ทุกเคสได้รับการวางแผนและดูแลโดยทีมทันตแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้รับฟันปลอมที่เหมาะสมและมีคุณภาพ
- วัสดุคุณภาพสูงและห้องแล็บมาตรฐาน : เราเลือกใช้วัสดุที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล ปลอดภัย และทำงานร่วมกับห้องแล็บทันตกรรมชั้นนำ เพื่อให้ฟันปลอมของคุณสวยงามและทนทาน
- เทคโนโลยีที่ทันสมัย : เราใช้เทคโนโลยีการสแกนฟัน 3 มิติเข้ามาช่วยในการออกแบบ ทำให้ฟันปลอมมีความแม่นยำและพอดีกับช่องปากของคุณมากที่สุด ลดปัญหากดเจ็บหรือไม่พอดี
- ให้คำปรึกษาอย่างจริงใจ : เราพร้อมให้ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้คุณเข้าใจทางเลือกทั้งหมดและตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ สามารถเข้ามาปรึกษาและวางแผนการรักษาที่คลินิกทำฟันของเราได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
หากคุณกำลังมองหาว่าจะทำฟันปลอมที่ไหนดี ให้ Teeth Talk Dental Clinic เป็นผู้ดูแลรอยยิ้มของคุณ เจ้าหน้าที่คลินิกและคุณหมอของเราพร้อมให้การดูแลคุณอย่างดีที่สุด
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการทำฟันปลอม (FAQ)
เราได้รวบรวมคำถามที่หลายคนสงสัยเกี่ยวกับการทำฟันปลอมมาตอบให้หายข้องใจกัน
ใส่ฟันปลอมเจ็บไหม?
ในช่วงแรกของการใส่ อาจมีความรู้สึกตึงหรือไม่คุ้นชินบ้าง แต่โดยทั่วไปอาการเจ็บมีน้อยมาก ซึ่งร่างกายจะค่อย ๆ ปรับตัวและอาการเหล่านี้จะหายไปเองภายในไม่กี่วัน
ใส่แล้วรู้สึกรำคาญ หรือส่งผลต่อการพูดไหม?
เป็นเรื่องปกติที่จะรู้สึกว่ามีสิ่งแปลกปลอมในปากและอาจพูดไม่ชัดเล็กน้อยในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก แต่เมื่อกล้ามเนื้อลิ้นและแก้มปรับตัวได้แล้ว ความรู้สึกเหล่านี้ก็จะหายไป
ต้องใส่ฟันปลอมตลอดทั้งวันไหม?
สำหรับฟันปลอมแบบถอดได้ ทันตแพทย์ส่วนใหญ่แนะนำให้ถอดออกเวลานอน เพื่อให้เหงือกได้พักผ่อนและทำความสะอาดฟันปลอมได้อย่างเต็มที่
คนที่ใส่ฟันปลอม จัดฟันได้หรือไม่?
ขึ้นอยู่กับประเภทของฟันปลอมและแผนการรักษาโดยรวม ในบางกรณีสามารถทำได้ แต่จำเป็นต้องให้ทันตแพทย์จัดฟันประเมินและวางแผนอย่างละเอียดเป็นรายบุคคล
ฟันปลอมอยู่ได้นานกี่ปี?
ฟันปลอมแบบถอดได้มีอายุการใช้งานเฉลี่ย 5-10 ปี ส่วนฟันปลอมแบบติดแน่นอย่างรากฟันเทียม หากดูแลอย่างดีอาจอยู่ได้ตลอดชีวิต ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาความสะอาดและตรวจสุขภาพฟันเป็นประจำ
สรุป คืนรอยยิ้มที่มั่นใจด้วยฟันปลอมที่ใช่สำหรับคุณ

การสูญเสียฟันไม่ใช่จุดจบของรอยยิ้มที่สวยงาม การเลือกทำฟันปลอมที่เหมาะสมไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณกลับมาบดเคี้ยวอาหารและพูดได้อย่างเป็นปกติ แต่ยังช่วยคืนความมั่นใจและคุณภาพชีวิตที่ดีให้กลับมาอีกครั้ง ที่ Teeth Talk Dental Clinic เราพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์รอยยิ้มใหม่ให้กับคุณ หากคุณมีข้อสงสัยเพิ่มเติม หรือต้องการนัดหมายเพื่อปรึกษา สามารถติดต่อเราได้ที่เบอร์โทร 099-113-8103 หรือ Line : @teethtalk หรือ Facebook Page : “Teeth Talk Dental Clinic คลินิกทันตกรรม จัดฟัน ทำฟัน” ทีมงานของเราพร้อมดูแลและมอบรอยยิ้มที่มั่นใจให้กับคุณ

































