
การสูญเสียฟันแท้ไม่ว่าจะจากอุบัติเหตุ ฟันผุ หรืออายุที่มากขึ้น ล้วนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตมากกว่าที่คิด ตั้งแต่การบดเคี้ยวอาหารลำบาก ไปจนถึงการเสียความมั่นใจในรอยยิ้ม หลายคนอาจกำลังมองหาตัวเลือกอย่างฟันปลอมเพื่อมาทดแทน แต่ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่เรียกว่า “รากฟันเทียม” ซึ่งถูกยกให้เป็นมาตรฐานใหม่ของการทดแทนฟันที่ใกล้เคียงธรรมชาติที่สุด
สำหรับใครที่กำลังศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการทำรากฟันเทียม แต่ยังเต็มไปด้วยคำถามมากมาย ไม่ว่าจะเป็น รากฟันเทียมคืออะไรกันแน่? มีขั้นตอนยุ่งยากไหม? เจ็บหรือเปล่า? และที่สำคัญคือ ราคาเท่าไหร่? Teeth Talk Dental Clinic ได้รวบรวมทุกคำตอบที่คุณอยากรู้ไว้ในบทความนี้แล้ว อ่านจบแล้วจะเข้าใจทุกอย่าง เหมือนมีทันตแพทย์มาให้คำปรึกษาอยู่ข้างๆ เลย
รากฟันเทียม คืออะไร?
รากฟันเทียม (Dental Implant) คือวัสดุทางการแพทย์ที่ผลิตจากไทเทเนียม (Titanium) ซึ่งเป็นโลหะที่เข้ากับร่างกายมนุษย์ได้ดีมาก โดยออกแบบให้มีลักษณะคล้ายสกรูเพื่อทำหน้าที่แทน “รากฟัน” ธรรมชาติที่สูญเสียไป ทันตแพทย์จะทำการผ่าตัดเล็กเพื่อฝังรากฟันเทียมนี้ลงไปในกระดูกขากรรไกร เมื่อรากฟันเทียมยึดติดกับกระดูกอย่างสมบูรณ์แล้ว ก็จะกลายเป็นฐานที่แข็งแรงอย่างยิ่งสำหรับใช้ยึดครอบฟัน หรือฟันปลอมแบบติดแน่นซี่ใหม่ ผลลัพธ์ที่ได้จึงไม่ใช่แค่ฟันที่สวยงาม แต่ยังเป็นการคืนฟังก์ชันการใช้งานที่มั่นคง แข็งแรง และให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติมากที่สุด
รู้จัก 3 ส่วนประกอบสำคัญของรากฟันเทียม
รากฟันเทียมหนึ่งชุดจะประกอบด้วย 3 ส่วนหลักที่ทำงานร่วมกันอย่างลงตัว เพื่อสร้างฟันซี่ใหม่ที่สมบูรณ์แบบและใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งแต่ละส่วนมีหน้าที่แตกต่างกันไปดังนี้
1. ตัวรากฟันเทียม (Fixture) ที่ฝังในกระดูก
ส่วนนี้คือหัวใจหลัก มีลักษณะเป็นสกรูไทเทเนียมที่จะถูกฝังลงในกระดูกขากรรไกร ทำหน้าที่เปรียบเสมือน “รากฐาน” ของบ้าน คอยยึดฟันทั้งซี่ให้มั่นคง ผิวของรากฟันเทียมถูกออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้เซลล์กระดูกสามารถเจริญเติบโตเข้ามาเชื่อมยึดติดได้อย่างสมบูรณ์ (เรียกว่ากระบวนการ “Osseointegration”) ทำให้มีความแข็งแรงทัดเทียมรากฟันธรรมชาติ
2. เดือยรองรับครอบฟัน (Abutment)
ส่วนนี้ทำหน้าที่เป็น “ตัวเชื่อม” ระหว่างรากฟันเทียมที่ฝังอยู่ใต้เหงือกกับครอบฟันที่อยู่ด้านบน โดยจะถูกยึดติดเข้ากับตัวรากฟันเทียมหลังจากที่รากเทียมยึดกับกระดูกดีแล้ว และจะมีส่วนที่โผล่พ้นเหงือกขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อเป็นแกนสำหรับให้ครอบฟันมายึดเกาะ
3. ครอบฟัน (Crown) ที่เป็นตัวฟันสวยงามด้านบน
นี่คือส่วนที่เรามองเห็นและใช้บดเคี้ยวอาหาร เป็นตัวฟันที่ถูกผลิตขึ้นจากเซรามิกคุณภาพสูง สามารถออกแบบรูปร่าง ขนาด และเฉดสีให้เหมือนกับฟันซี่ข้างเคียงได้อย่างแนบเนียน ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ดูสวยงามเป็นธรรมชาติจนแยกไม่ออก
ทำไมรากฟันเทียมถึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการทดแทนฟัน?
เหตุผลสำคัญที่ทำให้รากฟันเทียมโดดเด่นกว่าวิธีอื่นอย่างสะพานฟัน หรือฟันปลอมแบบถอดได้ คือ “ความสามารถในการรักษากระดูกขากรรไกร” เพราะเมื่อเราสูญเสียฟันไปแล้ว กระดูกบริเวณนั้นจะไม่มีรากฟันคอยกระตุ้นอีกต่อไป ทำให้กระดูกค่อย ๆ ละลายตัวและยุบลง ซึ่งส่งผลให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัยได้ในระยะยาว
แต่รากฟันเทียมจะทำหน้าที่เหมือนรากฟันธรรมชาติในการส่งแรงกระตุ้นไปยังกระดูก ช่วยรักษาสภาพกระดูกและโครงสร้างใบหน้าไว้ได้ นอกจากนี้ยังให้ประสิทธิภาพการบดเคี้ยวที่ดีเยี่ยม ไม่ต้องกรอฟันดี ๆ ซี่ข้างเคียง และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากหากดูแลอย่างถูกวิธี
ข้อจำกัดของรากฟันเทียมที่ควรรู้
แม้ว่ารากฟันเทียมจะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจเข้ารับการรักษา
- ค่าใช้จ่ายสูงกว่าวิธีอื่น : เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงและใช้วัสดุคุณภาพดี ทำให้มีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่สูงกว่าการทำฟันปลอมรูปแบบอื่น
- ใช้ระยะเวลาในการรักษา : กระบวนการทั้งหมดต้องรอให้รากฟันเทียมยึดติดกับกระดูก ซึ่งอาจใช้เวลาหลายเดือนจึงจะเสร็จสมบูรณ์ ไม่สามารถทำเสร็จได้ในครั้งเดียว (ยกเว้นบางกรณี)
- ต้องมีปริมาณกระดูกที่เพียงพอ : ในกรณีที่กระดูกขากรรไกรละลายตัวไปมาก อาจจำเป็นต้องมีการผ่าตัดปลูกกระดูกเสริมก่อน ซึ่งจะเพิ่มขั้นตอนและค่าใช้จ่าย
- ไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด : ผู้ที่มีโรคเบาหวานที่ควบคุมน้ำตาลไม่ได้ หรือโรคที่ส่งผลต่อการหายของแผล อาจมีความเสี่ยงสูงขึ้น
เช็กเลย! ใครบ้างที่เหมาะกับการทำรากฟันเทียม
การทำรากฟันเทียมเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับหลาย ๆ คน ลองมาดูกันว่าคุณเข้าข่ายเป็นหนึ่งในผู้ที่เหมาะสมกับการรักษานี้หรือไม่
- ผู้ที่สูญเสียฟันแท้ไป 1 ซี่ หลายซี่ หรือทั้งปาก
- ผู้ที่ไม่ต้องการกรอฟันซี่ข้างเคียงที่ยังมีสุขภาพดีเพื่อทำสะพานฟัน
- ผู้ที่ใช้ฟันปลอมแบบถอดได้แล้วพบปัญหาหลวม เลื่อนหลุด หรือรู้สึกไม่เป็นธรรมชาติ
- ผู้ที่ต้องการฟันซี่ใหม่ที่แข็งแรง เคี้ยวอาหารได้อย่างมั่นใจ และดูสวยงามเหมือนฟันจริง
- ผู้ที่มีสุขภาพโดยรวมแข็งแรง และมีสุขอนามัยในช่องปากที่ดี
- ผู้ที่มีปริมาณกระดูกขากรรไกรเพียงพอ หรือยินดีเข้ารับการปลูกกระดูกเพิ่มเติม
เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างรากฟันเทียม VS สะพานฟัน VS ฟันปลอมถอดได้
เพื่อให้เห็นภาพและช่วยในการตัดสินใจได้ง่ายขึ้น Teeth Talk Dental Clinic ได้ทำตารางเปรียบเทียบการทดแทนฟันทั้ง 3 รูปแบบมาให้ดูกันแบบชัด ๆ
คุณสมบัติ | รากฟันเทียม | สะพานฟัน (Bridge) | ฟันปลอมถอดได้ (Denture) |
ความเป็นธรรมชาติ | ดีเยี่ยม เหมือนฟันจริงที่สุด | ดี แต่ตัวฟันจะติดกันเป็นแผง | พอใช้ อาจดูไม่เป็นธรรมชาติ |
ประสิทธิภาพการเคี้ยว | ดีเยี่ยม ใกล้เคียงฟันแท้ | ดี แต่ต้องระวังของแข็ง/เหนียว | พอใช้ ต้องปรับตัว อาจเคี้ยวลำบาก |
ผลกระทบต่อฟันข้างเคียง | ไม่มี ไม่ต้องกรอฟันซี่อื่น | ต้องกรอฟันดี 2 ซี่เพื่อเป็นหลักยึด | อาจมีตะขอเกี่ยวที่ทำให้ฟันสึก |
การดูแลรักษา | ง่าย เหมือนฟันปกติ | ยาก ต้องใช้อุปกรณ์พิเศษทำความสะอาดใต้ซี่กลาง | ต้องถอดออกมาล้างทุกวัน |
การรักษากระดูกขากรรไกร | ช่วยรักษากระดูกไว้ได้ | ไม่ช่วย กระดูกใต้ซี่กลางจะละลายตัว | ไม่ช่วย และอาจเร่งให้กระดูกละลายเร็วขึ้น |
อายุการใช้งาน | ยาวนานมาก (15-25 ปี หรือตลอดชีวิต) | 5-15 ปี | 3-7 ปี |
ค่าใช้จ่ายเริ่มต้น | สูง | ปานกลาง | ต่ำ |
ขั้นตอนการทำรากฟันเทียมที่ Teeth Talk Dental Clinic
ที่ Teeth Talk Dental Clinic เรามีกระบวนการรักษาที่ชัดเจนและใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อให้ผลลัพธ์การรักษามีประสิทธิภาพและแม่นยำสูงสุด โดยมีขั้นตอนหลัก ๆ ดังนี้
1. ปรึกษาและวางแผนการรักษาด้วยระบบดิจิทัล 3 มิติ
ขั้นตอนแรกคือการเข้ามาปรึกษากับทันตแพทย์เฉพาะทางของเรา ทันตแพทย์จะทำการตรวจสุขภาพช่องปากอย่างละเอียด และใช้เทคโนโลยี CT Scan 3 มิติ เพื่อวิเคราะห์สภาพกระดูกขากรรไกรอย่างแม่นยำ ทำให้สามารถวางแผนตำแหน่งการฝังรากฟันเทียมได้อย่างสมบูรณ์แบบ ช่วยลดขนาดแผลผ่าตัด และทำให้กระบวนการรักษารากฟันเทียมปลอดภัยและเจ็บน้อยลง นอกจากนี้เรายังใช้เครื่องสแกน 3 มิติ iTero เพื่อจำลองภาพฟันหลังการรักษาให้คุณเห็นก่อนตัดสินใจ
2. การผ่าตัดฝังรากฟันเทียม
หลังจากวางแผนเรียบร้อยแล้ว ทันตแพทย์จะนัดเพื่อทำการผ่าตัดเล็กสำหรับฝังรากฟันเทียม ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้
- ทันตแพทย์จะฉีดยาชาเฉพาะที่บริเวณที่จะทำการผ่าตัด
- เมื่อยาชาออกฤทธิ์เต็มที่ จะทำการเปิดเหงือกเล็กน้อย
- เตรียมตำแหน่งในกระดูกขากรรไกรและฝังตัวรากฟันเทียม (Fixture) ลงไป
- เย็บปิดแผล ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะใช้เวลาไม่นาน ประมาณ 30-60 นาทีต่อซี่
ผ่าตัดรากฟันเทียมเจ็บไหม?
ในระหว่างการผ่าตัดจะไม่รู้สึกเจ็บเลย เพราะทันตแพทย์จะใช้ยาชาเฉพาะที่อย่างเพียงพอ ความรู้สึกจะคล้ายกับการถอนฟัน หรือผ่าฟันคุด หลังยาชาหมดฤทธิ์อาจมีอาการปวดหรือบวมได้บ้าง ซึ่งเป็นอาการปกติและสามารถควบคุมได้ด้วยยาแก้ปวดที่ทันตแพทย์จ่ายให้ โดยอาการจะค่อยๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน
ระยะเวลารอรากฟันเทียมยึดติดกับกระดูกกี่วัน?
โดยทั่วไป จะใช้เวลารอประมาณ 2-4 เดือน เพื่อให้รากฟันเทียมเกิดกระบวนการยึดติดกับกระดูก (Osseointegration) อย่างสมบูรณ์ ซึ่งระยะเวลานี้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับคุณภาพของกระดูกและตำแหน่งที่ฝังรากฟันเทียม
3. พิมพ์ปากและใส่ครอบฟันซี่ใหม่
เมื่อรากฟันเทียมยึดติดกับกระดูกดีแล้ว ทันตแพทย์จะนัดหมายเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้าย
- ทันตแพทย์จะทำการต่อเดือยรองรับครอบฟัน (Abutment) เข้ากับรากฟันเทียม
- ใช้เครื่องสแกน 3 มิติหรือวัสดุพิมพ์ปากเพื่อเก็บข้อมูลสำหรับผลิตครอบฟัน
- เมื่อครอบฟันผลิตเสร็จเรียบร้อย (ประมาณ 1-2 สัปดาห์) ทันตแพทย์จะนัดมาเพื่อยึดครอบฟันซี่ใหม่เข้ากับเดือยรองรับ เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการ
ทำรากฟันเทียมกับ Teeth Talk Dental Clinic ราคาเท่าไหร่?
เรื่องค่าใช้จ่ายเป็นอีกปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจ สำหรับทำรากฟันเทียม ราคาจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อของรากฟันเทียมที่เลือกใช้ และความซับซ้อนของแต่ละเคส เช่น จำเป็นต้องมีการปลูกกระดูกร่วมด้วยหรือไม่ ที่ Teeth Talk Dental Clinic เราเน้นความโปร่งใส โดยทันตแพทย์จะทำการประเมินและแจ้งแผนการรักษาพร้อมค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ทราบอย่างละเอียดตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาปรึกษา เพื่อให้คุณสามารถวางแผนได้อย่างสบายใจ นอกจากนี้เรายังมีโปรโมชันและทางเลือกในการแบ่งชำระเพื่อช่วยให้คุณเข้าถึงการรักษาที่ดีที่สุดได้ง่ายขึ้น
ทำรากฟันเทียมกับ Teeth Talk Dental Clinic ดีอย่างไร?
การเลือกคลินิกทำฟันที่มีมาตรฐานและความเชี่ยวชาญคือหัวใจสำคัญของความสำเร็จในการรักษา ที่ Teeth Talk Dental Clinic เรามอบความมั่นใจให้คุณด้วยจุดเด่นเหล่านี้
- ดูแลโดยทีมทันตแพทย์ชำนาญการ ที่มีประสบการณ์และความชำนาญด้านรากฟันเทียมโดยตรง
- ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ทั้ง CT Scan 3 มิติ และเครื่องสแกน iTero ในการวางแผนและติดตามผลการรักษา เพื่อความแม่นยำและปลอดภัยสูงสุด
- เลือกใช้วัสดุรากฟันเทียมคุณภาพสูง จากแบรนด์ชั้นนำที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล
- ให้ความสำคัญกับการปลอดเชื้อ ด้วยมาตรฐานระดับโรงพยาบาล เพื่อความปลอดภัยของผู้รับบริการทุกคน
- การบริการที่ใส่ใจและเป็นกันเอง เราเข้าใจความกังวลของคุณและพร้อมให้คำปรึกษาอย่างละเอียดทุกขั้นตอน
การเตรียมตัวก่อนทำรากฟันเทียม
เพื่อให้การรักษาราบรื่นและปลอดภัยที่สุด การเตรียมตัวให้พร้อมเป็นสิ่งสำคัญ โดยเราแนะนำให้เตรียมตัวดังนี้
- แจ้งประวัติสุขภาพอย่างละเอียด : แจ้งโรคประจำตัว ยาที่รับประทานประจำ และประวัติการแพ้ยาทุกชนิดให้ทันตแพทย์ทราบ
- พักผ่อนให้เพียงพอ : นอนหลับให้เต็มที่ในคืนก่อนวันผ่าตัด เพื่อให้ร่างกายพร้อมสำหรับการฟื้นตัว
- รับประทานอาหารให้เรียบร้อย : ควรทานอาหารมาก่อนเข้ารับการผ่าตัด เพราะหลังทำอาจจะยังทานอาหารได้ไม่สะดวก
- งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ : ควรงดอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนและหลังการผ่าตัด เพราะส่งผลโดยตรงต่อการหายของแผล
- ทำความสะอาดช่องปาก : แปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันให้สะอาดก่อนมาพบทันตแพทย์
การดูแลตัวเองหลังทำรากฟันเทียม
การดูแลหลังการผ่าตัดเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้รากฟันเทียมของคุณอยู่ได้ยาวนาน โดยเราแนะนำให้ดูแลตัวเองด้วยวิธีการต่อไปนี้
- กัดผ้าก๊อซให้แน่น : กัดผ้าก๊อซตามที่ทันตแพทย์แนะนำประมาณ 1-2 ชั่วโมง เพื่อช่วยให้เลือดหยุดไหล
- ประคบเย็น : ในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก ให้ประคบเย็นบริเวณแก้มด้านที่ผ่าตัด เพื่อช่วยลดอาการบวม
- รับประทานยาตามที่ทันตแพทย์สั่ง : ทานยาแก้ปวดและยาปฏิชีวนะให้ครบตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
- รับประทานอาหารอ่อน : ในช่วงสัปดาห์แรก ควรเลือกทานอาหารอ่อน ๆ ที่ไม่ต้องเคี้ยวเยอะ และหลีกเลี่ยงอาหารรสจัดหรือร้อนจัด
- แปรงฟันอย่างระมัดระวัง : สามารถแปรงฟันได้ตามปกติ แต่ให้หลีกเลี่ยงบริเวณแผลผ่าตัด และบ้วนปากเบา ๆ
- พบทันตแพทย์ตามนัด : การตรวจติดตามผลเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลย
อาการหลังทำรากฟันเทียมแบบไหนที่ควรไปพบแพทย์?
แม้ว่าอาการปวดบวมเล็กน้อยจะเป็นเรื่องปกติ แต่หากคุณพบอาการผิดปกติเหล่านี้ ควรรีบติดต่อกลับมาพบทันตแพทย์ทันที
- มีอาการปวดรุนแรงต่อเนื่อง ไม่ทุเลาลงแม้ทานยาแก้ปวดแล้ว
- มีอาการบวมมากขึ้นหลังจากวันที่ 3 เป็นต้นไป
- มีเลือดไหลไม่หยุด หรือมีเลือดออกปริมาณมาก
- มีไข้สูง หรือรู้สึกไม่สบาย
- สังเกตเห็นหนองไหลออกมาจากบริเวณแผลผ่าตัด
- มีอาการชาบริเวณริมฝีปากหรือคางนานผิดปกติ
รวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการทำรากฟันเทียม (FAQ)
Teeth Talk Dental Clinic ได้รวบรวมคำถามที่หลายคนสงสัยเกี่ยวกับการทำรากฟันเทียมมาตอบให้หายข้องใจกันที่นี่ เพื่อให้คุณมีข้อมูลครบถ้วนที่สุดก่อนตัดสินใจ
ทำรากฟันเทียมใช้สิทธิรักษา 30 บาท หรือสิทธิบัตรทองได้ไหม?
การทำรากฟันเทียมเป็นการรักษาทางเลือก จัดอยู่ในกลุ่มทันตกรรมประดิษฐ์ ซึ่งโดยทั่วไปยังไม่ครอบคลุมในสิทธิการรักษา 30 บาท หรือสิทธิบัตรทอง แต่สามารถใช้สิทธิประกันสังคมในการเบิกค่าถอนฟันหรือผ่าฟันคุดก่อนการทำรากฟันเทียมได้
รากฟันเทียมหลุด ควรทำอย่างไร?
แม้จะเกิดขึ้นได้น้อยมาก แต่หากรู้สึกว่ารากฟันเทียมโยกหรือหลุด ควรรีบเก็บชิ้นส่วนนั้นไว้ (ถ้ามี) และติดต่อกลับมาพบทันตแพทย์โดยเร็วที่สุด ห้ามพยายามใส่กลับเข้าไปเองเด็ดขาด
ฟันกรามสามารถทำฟันปลอมได้ไหม?
ทำได้แน่นอน ฟันกรามที่หายไปสามารถทดแทนได้ทั้งแบบรากฟันเทียม สะพานฟัน และฟันปลอมถอดได้ ซึ่งรากฟันเทียมถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการทดแทนฟันกรามเพราะให้ความแข็งแรงในการบดเคี้ยวสูงที่สุด
ทำรากฟันเทียม สามารถจัดฟันได้ไหม?
โดยทั่วไปทันตแพทย์จะแนะนำให้จัดฟันให้เสร็จเรียบร้อยก่อนแล้วจึงทำรากฟันเทียม เพราะรากฟันเทียมจะยึดติดแน่นกับกระดูกและไม่สามารถเคลื่อนที่ไปพร้อมกับฟันซี่อื่นได้
อายุเท่าไหร่ถึงทำรากฟันเทียมได้?
แนะนำให้ทำในผู้ที่มีอายุ 18-20 ปีขึ้นไป หรือเมื่อกระดูกขากรรไกรเจริญเติบโตเต็มที่แล้ว เพื่อให้รากฟันเทียมอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมในระยะยาว
ใครบ้างที่ไม่ควรทำรากฟันเทียม?
ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางอย่างที่ควบคุมไม่ได้ เช่น เบาหวานรุนแรง โรคกระดูกพรุนชนิดรุนแรง ผู้ที่รับการฉายรังสีบริเวณใบหน้าและขากรรไกร หรือผู้ที่สูบบุหรี่จัดมาก ๆ อาจมีความเสี่ยงสูง ซึ่งต้องให้ทันตแพทย์ประเมินเป็นรายบุคคล
สรุป คืนรอยยิ้มและความมั่นใจ มาปรึกษาเรื่องรากฟันเทียมกับเราที่ Teeth Talk Dental Clinic
รากฟันเทียมคือการลงทุนเพื่อสุขภาพช่องปากและคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาว เป็นวิธีทดแทนฟันที่ให้ทั้งความสวยงาม ฟังก์ชันการใช้งาน และความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด ช่วยให้คุณกลับมาเคี้ยวอาหารได้อย่างมีความสุข และยิ้มได้อย่างมั่นใจอีกครั้ง แม้การสูญเสียฟันอาจเกิดจากปัญหาฟันผุทะลุโพรงประสาทหรือเหตุผลอื่นใดก็ตาม การทดแทนฟันคือสิ่งที่ไม่ควรละเลย
หากคุณกำลังพิจารณาการทำรากฟันเทียม หรือยังมีข้อสงสัยเพิ่มเติม อย่าลังเลที่จะนัดหมายเข้ามาปรึกษาทีมทันตแพทย์ผู้ชำนาญการที่ Teeth Talk Dental Clinic เราพร้อมให้การดูแลและวางแผนการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับคุณโดยเฉพาะ ติดต่อได้เลยที่ เบอร์โทร 095-491-8659 หรือ Line : @teethtalk หรือ Facebook Page : “Teeth Talk Dental Clinic คลินิกทันตกรรม จัดฟัน ทำฟัน ” ทีมงานของเราพร้อมดูแลและมอบรอยยิ้มที่มั่นใจให้กับคุณ