
รักษารากฟัน (Root Canal Treatment) เชื่อว่าทุกคนน่าจะเคยได้ยินคำนี้มาบ้าง แต่คนสนใจที่จะรักษาจริง ๆ นั้นกลับน้อยมาก สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะหลายคนไม่รู้ว่าการละเลยปล่อยให้ฟันผุมากเกินไปอันตรายมากกว่าที่คิด หรือไม่รู้ว่าสาเหตุจริง ๆ ของอาการปวดฟันอันแสนทรมานนี้มาจากการที่รากฟันเกิดการอักเสบนั่นเอง
สำหรับบางคนที่พอมีความรู้อยู่บ้างแล้ว แต่ดันปล่อยให้การอักเสบลุกลามจนแก้ปัญหาไม่ทันทำให้เสียค่าใช้จ่ายสูงกว่าเดิมไปอีก! วันนี้ Teeth Talk Dental Clinic จะมาอธิบายให้เพื่อน ๆ เข้าใจได้ง่าย ๆ ว่า การรักษารากฟันคืออะไร? มีขั้นตอนการรักษายังไง? ราคาสูงเพราะอะไร? พร้อมไขข้อข้องใจสำหรับบางคนที่พอนึกถึงคำนี้แล้วเห็นภาพว่าการรักษาต้องน่ากลัวแน่นอน จะน่ากลัวแบบที่คิดไหม มาอ่านไปพร้อม ๆ กันเลย
รากฟันอักเสบได้ยังไง ปล่อยไว้อันตรายจริงหรอ ?
เพื่อให้เข้าใจสาเหตุของการอักเสบ เราต้องรู้จักโครงสร้างของรากฟัน (Root) กันก่อน
รากฟันคือส่วนของฟันที่ฝังอยู่ใต้เหงือกและยึดติดกับกระดูกขากรรไกร ทำหน้าที่เป็นเสาหลักให้ฟันมีความมั่นคง ภายในรากฟันจะมีส่วนที่เรียกว่า “โพรงประสาทฟัน” ซึ่งเป็นที่อยู่ของเส้นเลือดและเส้นประสาทมากมายที่คอยหล่อเลี้ยงให้ฟันมีชีวิตและรับความรู้สึก
เมื่อเกราะป้องกันชั้นนอกของฟันอย่างเคลือบฟันและเนื้อฟันถูกทำลาย เชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในช่องปากจะสามารถเดินทางลึกเข้าไปจนถึงโพรงประสาทฟัน ทำให้เกิดการติดเชื้อและการอักเสบที่รุนแรงขึ้น ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ ที่เปิดทางให้เชื้อโรคเข้าไปได้ มีดังนี้
- การปล่อยให้ฟันผุลุกลามเป็นเวลานานจนทำลายชั้นเนื้อฟันทั้งหมด
- ฟันที่เกิดอุบัติเหตุจนแตกร้าวหรือบิ่นลึกถึงชั้นโพรงประสาทฟัน
- โรคเหงือกอักเสบรุนแรงที่ทำให้เชื้อโรคสามารถเข้าสู่รากฟันจากทางด้านข้างได้
หากไม่รีบทำการรักษา การติดเชื้อจะไม่หายไปเอง ตรงกันข้าม เชื้อโรคจะยิ่งลุกลามลงไปที่ปลายรากฟัน เกิดเป็นหนองสะสมในกระดูกขากรรไกร (Abscess) ซึ่งไม่เพียงแต่จะทำให้เกิดอาการปวดอย่างรุนแรงจนทนไม่ไหว แต่ยังสามารถทำลายกระดูกรอบ ๆ รากฟัน และอาจลุกลามไปยังส่วนอื่นของใบหน้าได้ สุดท้ายหากปล่อยทิ้งไว้จนฟันถูกทำลายไปทั้งหมด ก็อาจจะต้องถอนฟันซี่นั้นทิ้งไปอย่างน่าเสียดาย
จะรู้ได้อย่างไรว่ารากฟันอักเสบ?

สัญญาณเตือนของรากฟันอักเสบอาจแตกต่างกันไปในแต่ละคน แต่โดยทั่วไปมักมีอาการเหล่านี้ร่วมด้วย ซึ่งเป็นสัญญาณว่าคุณควรมาพบทันตแพทย์ได้แล้ว
- ปวดฟันรุนแรงขึ้นมาเอง โดยเฉพาะตอนกลางคืน หรือปวดจนนอนไม่หลับ
- เสียวฟันอย่างรุนแรงและเป็นเวลานานเมื่อดื่มของร้อนหรือเย็น
- เจ็บเมื่อเคี้ยวหรือกัดอาหารลงบนฟันซี่นั้นๆ
- มีตุ่มหนองนูนขึ้นมาบนเหงือกบริเวณฟันที่ปวด
- เหงือกบวม หรือใบหน้าบริเวณนั้นบวมขึ้น
- สีของฟันคล้ำลงกว่าซี่ข้างเคียง
หากคุณมีอาการข้อใดข้อหนึ่งตามที่กล่าวมา ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้หรือซื้อยาแก้ปวดมาทานเอง ควรรีบเข้ามาปรึกษาทันตแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง เพราะนี่อาจเป็นสัญญาณของภาวะฟันผุทำลายโพรงประสาทที่ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน
รักษารากฟัน คืออะไร ?
รักษารากฟัน (Root Canal Treatment) คือ การทำความสะอาดหรือกำจัดเส้นประสาท เนื้อเยื่อที่ติดเชื้อหรืออักเสบภายในโพรงประสาทฟันออกไป หลังจากทำความสะอาดเสร็จแล้วก็จะทำการรักษาด้วยการอุดปิดรากฟัน และครอบฟันเพื่อซ่อมแซมฟันให้กลับมาแข็งแรงใช้งานได้ตามเดิม ช่วยให้คุณไม่จำเป็นต้องถอนฟันออกไป ซึ่งเป็นวิธีการที่สามารถช่วยรักษาฟันไว้ได้นั่นเอง และยังป้องกันการติดเชื้อฟันเรื้อรัง และรากฟันเป็นหนองอีกด้วย
รักษารากฟันมีวิธีใดบ้าง?

โดยทั่วไปแล้ว วิธีรักษารากฟันจะแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบหลัก ขึ้นอยู่กับลักษณะและความรุนแรงของการติดเชื้อ ซึ่งทันตแพทย์จะเป็นผู้ประเมินและเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละเคส
การรักษารากฟันแบบ (ไม่) ผ่าตัด
เป็นวิธีการรักษารากฟันมาตรฐานที่ใช้กันโดยทั่วไป เหมาะสำหรับเคสส่วนใหญ่ที่การติดเชื้อยังคงจำกัดอยู่ภายในคลองรากฟัน และยังไม่มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรงที่ปลายราก โดยทันตแพทย์จะพิจารณาเป็นวิธีแรก เพื่อกำจัดเชื้อโรคและรักษาฟันซี่นั้นไว้
ขั้นตอนการรักษารากฟันแบบ (ไม่) ผ่าตัด
- ขั้นตอนแรก คุณหมอจะเอกซเรย์ตรวจสภาพฟัน เพื่อจัดแผนการรักษาให้เรา
- ต่อไปคุณหมอจะให้ยาชาที่บริเวณเหงือกใกล้กับรากฟันที่อักเสบ ซึ่งอาจจะทำให้เจ็บหรือปวดฟันได้ หลังจากนั้นจะใช้แผ่นยางบาง ๆ กั้นแยกฟันที่อักเสบออกจากฟันซี่อื่น ป้องกันไม่ให้ฟันซี่ข้าง ๆ เลอะน้ำลายหรือกระทบกระเทือน
- เมื่อเตรียมทุกอย่างเสร็จแล้ว คุณหมอจะทำการกรอฟันที่เสียหายหรือติดเชื้อให้มีพื้นที่ในการกำจัดเนื้อเยื่อที่ติดเชื้อออก
- หลังจากกำจัดส่วนที่ติดเชื้อออกแล้ว ก็จะทำความสะอาดโดยการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ และน้ำยาครอบฟัน ใส่ไปในคลองรากฟัน
- หลังจากนั้น คุณหมอจะใช้วัสดุเฉพาะอุดปิดรากฟันเอาไว้ คือ วัสดุอุดฟันแกนกลาง (Gutta percha) และวัสดุปิดช่องว่างระหว่างแกนกลางกับผนังคลองรากฟัน (Sealer) เพื่อป้องกันเชื้อโรคเข้าไปสะสมในระยะยาว ซี่งระยะเวลาในการรักษาแบบนี้อาจจะใช้เวลาประมาณ 45 – 90 นาที
- ขั้นตอนสุดท้าย ถ้าหากทำการรักษาเสร็จเรียบร้อย คุณหมอจะให้ใส่ที่ครอบฟัน เพื่อป้องกันเชื้อโรค และให้ฟันเราสามารถใช้งานได้นาน
การรักษารากฟันแบบผ่าตัด
การผ่าตัดปลายรากฟัน (Apicoectomy) เป็นวิธีที่จะใช้ในกรณีที่การรักษาแบบปกติไม่สำเร็จ หรือในเคสที่มีความซับซ้อน เช่น มีการติดเชื้อเรื้อรังที่ปลายรากฟันจนเกิดเป็นถุงหนองขนาดใหญ่ หรือคลองรากฟันมีความโค้งงอมากจนเครื่องมือไม่สามารถทำความสะอาดได้ทั่วถึง
ขั้นตอนการรักษารากฟันแบบผ่าตัด
- เริ่มด้วย คุณหมอวินิจฉัยอาการอักเสบของฟันจากภาพเอกซเรย์ จัดวางแผนการรักษา
- ถัดไปคุณหมอจะฉีดยาชาบริเวณฟันที่มีปัญหาอยู่ ขั้นตอนนี้อาจจะมีความเจ็บเล็กน้อยนะคะ
- หลังจากนั้นใช้เครื่องมือที่แม่นยำอย่าง กล้องจุลศัลยกรรม (Microscope) ในการช่วยขยายคลองรากฟันที่มีขนาดเล็กให้มองเห็นชัดขึ้น แล้วตัดปลายรากฟันที่เกิดหนองหรือส่วนที่ติดเชื้อออก ซึ่งจะใช้เวลาในการผ่าตัด 45 – 90 นาที แต่ก็ขึ้นอยู่ตำแหน่งของฟันด้วย
- สุดท้าย คุณหมอจะใช้วัสดุเข้าไปอุดในส่วนของปลายรากฟันที่ทำความสะอาดไว้แล้ว และหลังผ่าตัดอาจจะมีอาการปวดฟันเล็กน้อย แต่จะหายดีขึ้นในไม่ช้า
การรักษารากฟัน เจ็บไหม ?
ถ้าถามว่าการรักษารากฟันเจ็บไหม? บอกตามตรงก็มีความรู้สึกเจ็บอยู่บ้าง แต่จะเป็นความเจ็บระหว่างทำการรักษาตอนที่คุณหมอฉีดยาชาบริเวณเหงือก หลังจากยาชาออกฤทธิ์ก็ไม่เจ็บแล้ว
และจะมีความเจ็บอีกครั้งหลังจากที่รักษาเสร็จแล้ว และยาชาหมดฤทธิ์หลง โดยจะมีความเจ็บและการบวมของเหงือกบริเวณฟันในช่วงแรก ๆ ซึ่งอาการจะค่อย ๆ ทุเลาลงเองตามลำดับ หากใครมีอาการปวด หรือเจ็บมากเกินไปก็สามารถกินยาบรรเทาอาการให้ลดลงได้
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการรักษารากฟัน
เพื่อให้การรักษาราบรื่นและลดความกังวล การเตรียมตัวให้พร้อมเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี
- แจ้งประวัติสุขภาพและยาที่ทานประจำให้ทันตแพทย์ทราบอย่างละเอียด
- พักผ่อนให้เพียงพอในคืนก่อนวันนัดหมาย
- รับประทานอาหารให้เรียบร้อยก่อนเข้ารับการรักษา เนื่องจากหลังทำอาจจะยังมีอาการชาอยู่
- แปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดช่องปากให้ดีก่อนมาพบทันตแพทย์
การดูแลตัวเองหลังการรักษารากฟัน
เพื่อให้แผลหายดีและป้องกันปัญหาแทรกซ้อน การปฏิบัติตัวหลังการรักษารากฟันอย่างเคร่งครัดเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม
- ไม่ควรรับประทานอาหารหลังจากที่ได้รับการรักษาในทันที เนื่องจากยังคงมีอาการชาบริเวณที่ทำการรักษาอยู่ ควรรอให้อาการชาหายไปก่อน เพื่อป้องกันการกัดลิ้นหรือกระพุ้งแก้มโดยไม่ตั้งใจ
- งดการเคี้ยวอาหารด้วยซี่ฟันที่ทำการรักษามา เพราะอาจจะทำให้ฟันแตกได้
- ควรแปรงฟันอย่างวันละ 2 ครั้งต่อวัน
- ควรตรวจสุขภาพปากอย่างสม่ำเสมอ เพื่อติดตามการรักษาฟันของเรา
อาการหลังรักษารากฟันแบบไหนที่ควรไปพบแพทย์?
แม้ว่าอาการปวดบวมเล็กน้อยในช่วง 2-3 วันแรกจะเป็นเรื่องปกติ แต่หากพบสัญญาณผิดปกติเหล่านี้ ควรรีบติดต่อคลินิกทันทีเพื่อเข้ารับการตรวจ
- มีอาการปวดรุนแรงต่อเนื่อง ไม่ทุเลาลงแม้ทานยาแก้ปวด
- อาการบวมเพิ่มมากขึ้นหลังจากวันที่ 3 เป็นต้นไป
- มีไข้ หรือรู้สึกไม่สบาย
- วัสดุอุดชั่วคราวหลุดออก
- เกิดอาการแพ้ยา เช่น มีผื่นขึ้น หรือหายใจติดขัด
การรักษารากฟัน ราคาเท่าไหร่ ? ขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง ?
บางคนอาจจะพอทราบมาบ้างว่า ค่ารักษาค่อนข้างสูง เพราะเป็นการรักษาที่มีความยากและความซับซ้อนตามความรุนแรงของฟันที่ติดเชื้อ ยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากบางกรณีที่ต้องใช้วัสดุในการเดือยฟัน การครอบฟัน และราคาก็ยังขึ้นอยู่กับสถานพยาบาลและคลินิกทันตกรรมที่เลือกรับบริการด้วย
ดังนั้นจึงเกิดคำถามยอดฮิตที่ใคร ๆ ก็ถามถึงคือ ค่ารักษาสูงขนาดนี้จะรักษาที่ไหนดี ให้คุ้มค่ากับเงินที่เราได้เสียไป ที่ Teeth Talk Dental Clinic ในการรักษารากฟัน ราคาจะเริ่มต้นที่ 2,000 – 11,000 บาท แต่ก็ขึ้นอยู่ตำแหน่งของซี่ฟันด้วย ว่าเป็นฟันหน้า ฟันกรามน้อย หรือฟันกรามใหญ่ เช่น การรักษาฟันกรามจะมีราคาสูงกว่าฟันหน้าหรือฟันกรามน้อย เพราะมีรากฟันเยอะกว่า 3 – 4 ราก
ราคารักษารากฟันที่ Teeth Talk Dental Clinic
| ตำแหน่งฟัน | ราคา |
| รักษารากฟันหน้า /ซี่ | 6,000 .- |
| รักษารากฟันกรามน้อย /ซี่ | 8,000.- |
| รักษารากฟันกรามใหญ่ /ซี่ | 11,000.- |
| รักษารากฟันซ้ำ /ซี่ | 2,000.- |
หมายเหตุ : ค่าบริการไม่รวมค่าอุดฟันถาวรหลังการรักษา (1000 บาท) /ซี่
สามารถดูราคาและรายละเอียดการรักษาฟันเพิ่มเติมได้ที่นี่
หลังจากที่เราทำการรักษาไปแล้วในครั้งแรก คุณหมอจะทำการครอบฟันให้ ซึ่งจำเป็นมากเพราะจะช่วยป้องกันน้ำลายที่อาจจะทำให้รากฟันมีการติดเชื้อซ้ำซ้อน และป้องกันไม่ให้ฟันแตกหัก เนื่องจากบางกรณีต้องมีการพบคุณหมอมากกว่า 1 ครั้ง ก็จะมีการอุดรากฟันชั่วคราวและใส่ที่ครอบฟันไว้เพื่อปกป้องฟันระหว่างรอการรักษาทำความสะอาดครั้งต่อไป โดยคนไข้สามารถเลือกประเภทที่ครอบฟันได้ตามความเหมาะสม
รับสิทธิ์พิเศษและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ปรึกษาฟรี!
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการรักษารากฟัน (FAQ)
เพื่อให้คุณเข้าใจเรื่องการรักษารากฟันมากขึ้น Teeth Talk Dental Clinic ได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยและคำตอบที่เข้าใจง่ายมาไว้ที่นี่แล้ว
การอุดปิดรากฟันกับฝังรากฟันเทียมแตกต่างกันอย่างไร?
การฝังรากฟันเทียม จะฝังรากเทียมเข้าในเหงือกโดยต้องถอนฟันแท้ออกไปก่อน และใส่ฟันใหม่หรือฟันปลอมเข้าไปทดแทน ส่วนการรักษาดูแลรากฟันจะเป็นการรักษาฟันแท้ของเราให้กลับมาใช้งานได้แบบเดิม โดยไม่ต้องกลัวว่าฟันปลอมจะหลวมในอนาคต ซึ่งการรักษานี้ยังช่วยให้อาการปวดฟันจากฟันผุหายไปด้วย เพียงแต่ต้องหมั่นทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอเพื่อไม่ให้กลับมาติดเชื้อซ้ำอีก
เคยรักษารากฟันมาก่อน จัดฟันได้ไหม?
สามารถจัดฟันได้ตามปกติ แต่ควรแจ้งทันตแพทย์จัดฟันให้ทราบว่ามีฟันซี่ที่เคยรักษารากฟันมาก่อน เพื่อการวางแผนการเคลื่อนฟันที่เหมาะสมและปลอดภัย
ถอนฟันทิ้งแทนรักษารากฟันได้ไหม?
เป็นทางเลือกหนึ่ง แต่ทันตแพทย์ส่วนใหญ่ไม่แนะนำหากยังสามารถรักษาได้ เพราะการเก็บฟันธรรมชาติไว้ดีที่สุด การถอนฟันจะทำให้เกิดช่องว่าง ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาฟันล้มและปัญหาการบดเคี้ยวตามมาได้
หลังรักษารากฟันเสร็จแล้ว กี่วันถึงจะหายปวด?
อาการปวด หรือระคายเคืองเล็กน้อยในช่วง 2-3 วันแรก ถือเป็นเรื่องปกติและสามารถควบคุมได้ด้วยยาแก้ปวด อาการจะค่อย ๆ ทุเลาลง หากปวดรุนแรงหรือไม่ดีขึ้นควรกลับมาพบทันตแพทย์
ฟันที่รับการรักษารากฟันจะอยู่ได้นานไหม?
หากได้รับการบูรณะอย่างเหมาะสม (ส่วนใหญ่มักเป็นการทำครอบฟัน) และดูแลสุขอนามัยในช่องปากอย่างดี ฟันที่รักษารากแล้ว สามารถอยู่ได้ยาวนานตลอดชีวิตเหมือนฟันปกติ

สรุป อย่าทนปวดจนต้องถอน รักษารากฟัน คือการลงทุนเพื่อรักษาฟันแท้ของคุณ
การรักษารากฟันไม่ใช่เรื่องน่ากลัว แต่คือกระบวนการทางการแพทย์ที่ช่วยกำจัดความเจ็บปวดอันแสนทรมานและรักษาฟันธรรมชาติของคุณไว้ การปล่อยให้อาการปวดฟันเรื้อรังและการติดเชื้อลุกลามนั้นน่ากลัวและอันตรายกว่ามาก การเลือกคลินิกทำฟันที่ได้มาตรฐานและมีทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจึงเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จ ที่ Teeth Talk Dental Clinic เรามีทีมทันตแพทย์ชำนาญการ พร้อมด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย พร้อมให้การดูแลและวางแผนการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับคุณ หากคุณกำลังมีปัญหาสุขภาพฟันที่กวนใจ สามารถนัดหมายเข้ามาปรึกษาเราได้ทุกสาขา Teeth Talk Dental Clinic ใกล้บ้านคุณ ติดต่อได้เลยที่เบอร์โทร 095-491-8659 หรือ Line : @teethtalk หรือ Facebook Page : “Teeth Talk Dental Clinic คลินิกทันตกรรม จัดฟัน ทำฟัน ” ทีมงานของเราพร้อมให้คำแนะนำอย่างดีที่สุด






