จัดฟันแบบไหนดีกว่า ระหว่างการจัดฟันแบบ aosc หรือ damon สำหรับใครที่กำลังวางแผนจัดฟัน คำถามนี้อาจเกิดขึ้นบ่อย เพราะทั้งสองระบบจัดฟันนี้มีความโดดเด่นเฉพาะตัว บางคนเน้นผลลัพธ์ บางคนเน้นความสะดวก และบางคนอาจพิจารณาจากงบประมาณ บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจข้อแตกต่างอย่างชัดเจน พร้อมเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสีย เพื่อช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
1. มาทำความรู้จักการ จัดฟันแบบ aosc และ damon คืออะไร
1.1 การจัดฟัน aosc คืออะไร?
การจัดฟัน aosc (Advance Orthodontic System by C-Tech) เป็นระบบจัดฟันที่คิดค้นโดยทีมงานทันตแพทย์ไทย จุดเด่นอยู่ที่แบร็กเก็ตแบบสองชั้น ซึ่งใช้ระบบ “Dual-Ligating” คือมีทั้งการรัดยางแบบแน่น (Active) และการรัดยางแบบหลวม (Passive) รวมกัน การออกแบบนี้ช่วยให้สามารถควบคุมแรงในการเคลื่อนฟันได้อย่างยืดหยุ่น โดยจะใช้แรงดึงแบบหลวมในช่วงต้น เพื่อให้ฟันเคลื่อนเร็ว และเปลี่ยนมาใช้แรงแบบแน่นในช่วงท้าย เพื่อปรับองศาฟันให้แม่นยำ ถือว่าการจัดฟันแบบ aosc มีความแม่นยำมาก
1.2 การจัดฟัน damon คืออะไร?
ระบบจัดฟัน damon มีต้นกำเนิดจากต่างประเทศ และโดดเด่นด้วยเทคโนโลยี Self-Ligating หรือ “ไม่ใช้ยางรัดฟัน” แบร็กเก็ต Damon มีฝาปิดในตัวที่ช่วยล็อกลวดไว้ ทำให้แรงเสียดทานระหว่างลวดกับแบร็กเก็ตน้อยลง ส่งผลให้ฟันเคลื่อนตัวได้อย่างเป็นธรรมชาติ รู้สึกเจ็บน้อยลง และดูแลรักษาง่ายกว่าการจัดฟันแบบดั้งเดิม ทำให้การจัดฟันแบบ aosc กับ damon มีความแตกต่างกันนั่นเอง
2. เปรียบเทียบระบบการทำงานของ aosc กับ damon
การจัดฟันแบบ aosc ยังใช้ยางรัดลวดอยู่ แต่สามารถเลือกระหว่างยางแน่นหรือยางหลวมในแต่ละช่วงเวลาได้ จึงมีความยืดหยุ่นและสามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการเคลื่อนฟันได้ตามความเหมาะสม หากคุณสนใจที่จะจัดฟัน aosc ก็สามารถเดินทางมาจัดฟัน AOSC ใกล้ ฉัน ได้ที่ Teeth Talk Dental Clinic
ในขณะที่การจัดฟันแบบดามอนไม่ต้องใช้ยางรัดเลย เพราะตัวแบร็กเก็ตมีระบบล็อกลวดในตัวอยู่แล้ว การทำงานจึงนุ่มนวลและต่อเนื่อง ทำให้คุณเกิดความสะดวกสบายเพราะไม่ต้องพบทันตแพทย์บ่อยเหมือนการจัดฟันแบบที่ต้องเปลี่ยนยางเป็นประจำ
3. ข้อดี-ข้อเสียของการจัดฟัน AOSC และ Damon
จัดฟันแบบ aosc มีข้อดีในเรื่องของการควบคุมแรงได้ละเอียด สามารถจัดการเคสที่ซับซ้อน และมีราคาย่อมเยากว่า เหมาะกับคนไข้ที่มีงบประมาณจำกัดหรืออยากได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือนำเข้า แต่ในทางกลับกัน ยังคงต้องใช้ยางรัดฟัน ซึ่งอาจทำให้เกิดคราบหรือเศษอาหารสะสมได้ง่าย และต้องเปลี่ยนยางบ่อย
ส่วนการจัดฟันแบบดามอนเด่นในเรื่องความสะดวกสบาย ไม่ใช้ยางรัด ทำให้ทำความสะอาดง่ายขึ้น แถมยังเจ็บน้อยกว่าในหลายกรณี และบางคนอาจรู้สึกว่าฟันเคลื่อนเร็วขึ้นด้วย แต่ทั้งนี้ต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า เพราะเป็นเครื่องมือจากต่างประเทศ และหากมีชิ้นส่วนเสียหายอาจต้องรออะไหล่นำเข้า
4. ผลลัพธ์หลังการ จัดฟันแบบ aosc และ damon ต่างกันไหม?
แม้ว่าววิธีการจัดฟันของการจัดฟันแบบ aosc กับ damon จะแตกต่างกันแต่ทั้งสองระบบให้ผลลัพธ์ที่ดีและสวยงามไม่แพ้กัน ขึ้นอยู่กับแผนการรักษาและความสม่ำเสมอของคนไข้ อย่างไรก็ตาม AOSC อาจมีความได้เปรียบเล็กน้อยในแง่ของการควบคุมองศาฟันได้ละเอียดกว่าในบางเคส ขณะที่ Damon เน้นการเคลื่อนฟันอย่างต่อเนื่องและเป็นธรรมชาติมากกว่า
5. เปรียบเทียบค่าใช้จ่าย
หากพูดถึงค่าใช้จ่าย จัดฟันแบบ aosc มักมีราคาที่เข้าถึงง่ายกว่า โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 45,000 – 100,000 บาท ขึ้นอยู่กับคลินิก ส่วน Damon จะมีราคาสูงกว่า โดยเฉพาะรุ่น Damon Clear (แบบใส) อาจเริ่มต้นตั้งแต่ 70,000 – 150,000 บาทขึ้นไป หากสนใจจัดฟัน AOSC ใกล้ ฉันสามารถติดต่อสอบถามเข้ามาได้ที่ Facebook : “Teeth Talk Dental Clinic จัดฟัน ทำฟัน”ได้เลย
6. วิธีการดูแลรักษาระหว่างการจัดฟัน
สำหรับการจัดฟันแบบ aosc กับ damon ไม่ว่าจะเลือกแบบใด การดูแลรักษายังคงเป็นหัวใจสำคัญ เช่นเดียวกันทั้งสองระบบ เช่น แปรงฟันทุกครั้งหลังอาหาร ใช้ไหมขัดฟัน หลีกเลี่ยงอาหารเหนียว แข็ง หรือหนืด พบทันตแพทย์ตามนัด และระวังการเล่นกีฬาโดยไม่สวมอุปกรณ์ป้องกัน
สำหรับ AOSC ต้องใส่ใจเรื่องการเปลี่ยนยางที่อาจสะสมเชื้อโรค ส่วน Damon จะดูแลง่ายกว่าเล็กน้อย เพราะไม่มีส่วนของยางรัด หากสนใจจัดฟัน AOSC ใกล้ ฉันสามารถมาจัดฟันได้ที่ Teeth Talk Dental Clinic
7. เลือกแบบไหนดีให้เหมาะกับคุณ?
หากคุณมีงบประมาณจำกัด และต้องการจัดฟันให้ผลลัพธ์เป๊ะ aosc อาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะกับเคสที่ต้องการการควบคุมองศาฟันอย่างละเอียด ส่วนการจัดฟันแบบดามอน เหมาะกับคนที่ต้องการความสะดวก ดูแลง่าย เจ็บน้อย และไม่ต้องเปลี่ยนยางบ่อย โดยเฉพาะในชีวิตประจำวันที่เร่งรีบ หรือใครที่เน้นความเรียบเนียน Damon Clear ก็ช่วยให้จัดฟันดูไม่สะดุดตา
8. สรุปจัดฟันแบบ aosc และ damon ดีอย่างไร?
การจัดฟันแบบ aosc และ damon ต่างมีข้อดีของตนเอง AOSC เหมาะกับคนที่อยากได้ผลลัพธ์แม่นยำในราคาคุ้มค่า ส่วน Damon เหมาะกับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบาย เจ็บน้อย และยอมจ่ายเพิ่มเพื่ออุปกรณ์ที่ทันสมัย สิ่งสำคัญที่สุดคือการปรึกษาทันตแพทย์ เพื่อให้ได้แผนการรักษาที่เหมาะกับสุขภาพช่องปากและไลฟ์สไตล์ของคุณมากที่สุด
สำหรับท่านใดที่ต้องการดูแลสุขภาพฟันสามารถติดต่อเข้ามาที่ Teeth Talk Dental Clinic ได้เลยที่สาขาต่างๆ หรือสามารถติดต่อเข้ามา Line : Teeth Talk หรือ Facebook : “Teeth Talk Dental Clinic จัดฟัน ทำฟัน”ได้เลย ส่วนท่านใดที่มีคำถามเพิ่มเติมก็สามารถติดต่อสอบถามเข้ามาได้ เรายินดีให้คำตอบกับทุกคำถามเพื่อให้สามารถทำฟันได้อย่างสบายใจ