ในปากของเรามีฟันทั้งหมดกี่ซี่กันแน่? บางคนก็นับได้ 28 ซี่ บางคนก็บอกว่าต้องมี 32 ซี่ สรุปแล้ว ฟันแท้มีกี่ซี่ และฟันแต่ละซี่ทำหน้าที่อะไรบ้าง? บทความนี้ Teeth Talk Dental Clinic จะพาคุณไปไขข้อข้องใจ และทำความรู้จักกับฟันแท้ในช่องปากให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้คุณดูแลรักษาได้อย่างถูกวิธี
ฟันแท้ vs ฟันน้ำนม แตกต่างกันอย่างไร?
หลายคนอาจคิดว่าฟันก็คือฟัน รูปร่างคงเหมือน ๆ กัน แต่ความจริงแล้วฟันแต่ละชุดมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ทั้งในเรื่องของโครงสร้างและความแข็งแรง
- จำนวน : ฟันน้ำนมมีเพียง 20 ซี่ ในขณะที่ฟันแท้ชุดสมบูรณ์จะมีมากถึง 32 ซี่
- ขนาดและรูปร่าง : ฟันแท้จะมีขนาดใหญ่กว่า และมีความยาวของตัวฟันมากกว่าฟันน้ำนมอย่างเห็นได้ชัด
- สี : ฟันน้ำนมมักจะมีสีขาวขุ่น ส่วนฟันแท้จะมีสีขาวอมเหลืองเล็กน้อยตามธรรมชาติ ซึ่งเกิดจากชั้นเนื้อฟันที่หนาขึ้น
- ความแข็งแรง : ฟันแท้มีชั้นเคลือบฟันที่หนาและแข็งแรงกว่า เพื่อรองรับการบดเคี้ยวอาหารที่เหนียวและแข็งได้ดีกว่า และต้องใช้งานไปตลอดชีวิต
รับสิทธิ์พิเศษและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ปรึกษาฟรี!
ฟันแท้มีทั้งหมดกี่ซี่?
โดยปกติแล้วคนเราจะมี ฟันแท้ทั้งหมด 32 ซี่ แบ่งเป็นฟันบนและล่างอย่างละ 16 ซี่ แต่หากคุณนับได้เพียง 28 ซี่ ก็ไม่ต้องตกใจไป เพราะถือเป็นเรื่องปกติ ฟันอีก 4 ซี่ที่หายไปนั้นคือ “ฟันคุด” ที่มักจะขึ้นในช่วงอายุ 17-21 ปี หรือบางคนอาจไม่มีหน่อฟันเลยก็ได้ ซึ่งลำพังแค่ 28 ซี่นี้ ก็เพียงพอต่อการใช้งานหลัก ๆ ในชีวิตประจำวันแล้ว
รู้จักประเภทของฟันแท้และหน้าที่
ฟันทั้ง 32 ซี่ไม่ได้ทำหน้าที่เหมือนกันทั้งหมด แต่ทำงานประสานกันเป็นทีม โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก ตามลักษณะรูปร่างและการใช้งาน ดังนี้
1. ฟันตัด (Incisors)
เปรียบเสมือนกรรไกรประจำช่องปาก เป็นฟันหน้าสุดที่มีลักษณะแบนและขอบคม มีทั้งหมด 8 ซี่ (บน 4 ล่าง 4) หน้าที่หลักคือการ “ตัด” หรือ “กัด” อาหารให้ขาดออกจากกันเป็นชิ้นเล็ก ๆ เพื่อส่งต่อให้ฟันซี่อื่น ๆ จัดการต่อ นอกจากนี้ยังมีบทบาทสำคัญในเรื่องความสวยงามของรอยยิ้มและการออกเสียงพูดให้ชัดเจน
2. ฟันเขี้ยว (Canines)
มีลักษณะปลายแหลมคม อยู่ถัดจากฟันตัด มีทั้งหมด 4 ซี่ (มุมปากบนและล่าง) ทำหน้าที่หลักในการ “ฉีก” อาหารที่มีความเหนียว เช่น เนื้อสัตว์ ให้ขาดออกจากกัน และยังทำหน้าที่เป็นเสาหลักในการกำหนดมุมปากและรูปหน้า
3. ฟันกรามน้อย (Premolars)
เป็นฟันที่อยู่ถัดจากฟันเขี้ยว มีลักษณะกึ่งกลางระหว่างฟันเขี้ยวและฟันกราม คือมีพื้นผิวสำหรับบดเคี้ยวแต่ไม่ใหญ่เท่าฟันกราม มีทั้งหมด 8 ซี่ ทำหน้าที่เป็นตัวช่วยในการ “บด” และ “ฉีก” อาหารร่วมกัน เพื่อเตรียมอาหารให้ละเอียดขึ้นก่อนส่งไปยังฟันกราม
4. ฟันกรามใหญ่ (Molars)
มีขนาดใหญ่ที่สุด แข็งแรงที่สุด และมีพื้นที่หน้าตัดกว้าง มีร่องลึกและปุ่มฟันจำนวนมาก มีทั้งหมด 12 ซี่ (รวมฟันคุด) อยู่ด้านในสุดของขากรรไกร หน้าที่สำคัญที่สุดคือการ “บดเคี้ยว” อาหารให้ละเอียดก่อนที่จะกลืนลงสู่กระเพาะอาหาร หากสูญเสียฟันกรามไป ประสิทธิภาพในการเคี้ยวจะลดลงอย่างมาก
ลำดับการขึ้นของฟันแท้
ฟันแท้ไม่ได้ขึ้นมาพร้อมกันทีเดียวทั้งหมด แต่จะทยอยขึ้นมาแทนที่ฟันน้ำนมตามช่วงอายุ เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของขากรรไกร โดยมีลำดับคร่าว ๆ ดังนี้
- อายุ 6-7 ปี : ฟันกรามแท้ซี่แรก (First Molars) จะเริ่มขึ้นด้านในสุด และฟันตัดซี่กลางล่างเริ่มขึ้นแทนที่ฟันน้ำนม
- อายุ 7-8 ปี : ฟันตัดซี่กลางบน และฟันตัดซี่ข้างล่างเริ่มขึ้น
- อายุ 8-9 ปี : ฟันตัดซี่ข้างบนเริ่มขึ้น
- อายุ 9-10 ปี : ฟันเขี้ยวล่างเริ่มขึ้น
- อายุ 10-12 ปี : ฟันกรามน้อยซี่ที่ 1 และ 2 เริ่มทยอยขึ้น
- อายุ 11-12 ปี : ฟันเขี้ยวบน และฟันกรามแท้ซี่ที่ 2 เริ่มขึ้น
- อายุ 17-21 ปี : ฟันกรามแท้ซี่ที่ 3 (ฟันคุด) เริ่มปรากฏ ซึ่งอาจจะโผล่ขึ้นมาหรือฝังอยู่ในเหงือกก็ได้
รับสิทธิ์พิเศษและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ปรึกษาฟรี!
ดูแลฟันแท้ให้แข็งแรงครบทุกซี่ที่ Teeth Talk Dental Clinic
การรักษาฟันแท้ให้อยู่กับเราไปตลอดชีวิตเป็นเรื่องสำคัญ ที่ Teeth Talk Dental Clinic เราจึงมุ่งมั่นมอบประสบการณ์การรักษาที่ดี เพื่อให้คนไข้มั่นใจในทุกรอยยิ้ม
- ทีมทันตแพทย์มากประสบการณ์ : เรามีทีมทันตแพทย์ที่เชี่ยวชาญในการดูแลรักษาฟันแท้ วินิจฉัยแม่นยำ เพื่อเก็บรักษาฟันธรรมชาติของคุณไว้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้
- เทคโนโลยีที่ทันสมัย : เราใช้เครื่องเอกซเรย์ดิจิทัลที่ให้ภาพคมชัดและลดปริมาณรังสี ช่วยให้ตรวจพบความผิดปกติของรากฟันหรือฟันคุดได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น แม้ในจุดที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า
- การรักษาที่นุ่มนวล ใส่ใจความรู้สึก : เราให้ความสำคัญกับความรู้สึกของคนไข้เป็นอันดับแรก ทุกขั้นตอนการรักษาจึงเน้นความเบามือ สื่อสารอย่างเข้าใจ และสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย
- วางแผนการรักษาแบบองค์รวม : เราไม่ได้มุ่งเน้นแค่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่ยังมองไปถึงการวางแผนสุขภาพช่องปากในระยะยาว ให้คำแนะนำในการดูแลเพื่อป้องกันไม่ให้ฟันแท้ต้องถูกถอนก่อนเวลาอันควร
หากคุณเริ่มมีอาการปวดฟัน เสียวฟัน หรือสงสัยว่าฟันแท้กำลังมีปัญหา อย่าปล่อยทิ้งไว้ สามารถนัดหมายเพื่อเข้ามาปรึกษาและตรวจเช็กสภาพฟัน เพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้องและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับฟันแท้
ถึงแม้เราจะใช้ฟันแท้เคี้ยวข้าวอยู่ทุกวัน แต่เชื่อว่ายังมีอีกหลายเรื่องที่หลายคนยังสงสัยเกี่ยวกับฟันแท้
1. ฟันแท้หลุดไปแล้วสามารถขึ้นใหม่ได้อีกไหม?
ไม่ได้ เพราะฟันแท้คือฟันชุดสุดท้ายที่ธรรมชาติให้มา หากหลุด หรือถูกถอนออกไป จะไม่มีฟันชุดที่ 3 งอกขึ้นมาทดแทน วิธีเดียวที่จะมีฟันกลับมาใช้งานได้คือการทำฟันปลอม สะพานฟัน หรือการฝังรากฟันเทียม ดังนั้นการดูแลรักษาฟันแท้จึงสำคัญ
2. จำเป็นต้องถอนฟันคุดหรือไม่?
ขึ้นอยู่กับลักษณะการขึ้นของฟัน หากฟันคุดขึ้นตรง สามารถทำความสะอาดได้ และไม่รบกวนการสบฟัน ก็อาจไม่จำเป็นต้องถอน แต่ในกรณีที่ฟันคุดขึ้นเอียง ดันฟันข้างเคียง หรือฝังอยู่ในเหงือกจนทำความสะอาดยาก ทันตแพทย์จึงมักแนะนำให้ผ่าหรือถอนออกเพื่อตัดปัญหาในอนาคต
3. ฟันแท้ขึ้นช้ากว่าเพื่อนผิดปกติหรือไม่?
พัฒนาการของเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนฟันขึ้นเร็ว บางคนฟันขึ้นช้า ซึ่งอาจเกิดจากปัจจัยทางพันธุกรรม ภาวะโภชนาการ หรือมีความผิดปกติของฮอร์โมน หากอายุเกินเกณฑ์ไปมากแล้วฟันยังไม่ขึ้น หรือฟันน้ำนมไม่ยอมหลุด ควรพามาพบทันตแพทย์เพื่อเอกซเรย์ดูหน่อฟันแท้ว่ามีอยู่ครบถ้วนหรือไม่
สรุป ดูแลฟันแท้ให้ดี เพื่อรอยยิ้มที่ยั่งยืน
เมื่อได้รู้แล้วว่าฟันแท้มีกี่ซี่ และมีความสำคัญอย่างไร จึงควรหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพช่องปากมากขึ้น เพราะฟันแท้มีเพียงชุดเดียว หากเสียไปแล้วย่อมส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาว การแปรงฟันให้สะอาด ใช้ไหมขัดฟัน และการพบหมอฟันเป็นประจำคือสิ่งสำคัญของการรักษาฟันแท้
หากคุณกำลังมองหาคลินิกทำฟันที่เชี่ยวชาญและพร้อมให้คำปรึกษาอย่างละเอียด สามารถนัดหมายเพื่อประเมินสภาพฟันและวางแผนการรักษากับทีมทันตแพทย์ของเราได้ที่เบอร์โทร 099-113-8103 หรือ Line : @teethtalk หรือ Facebook Page : “Teeth Talk Dental Clinic คลินิกทันตกรรม จัดฟัน ทำฟัน” ทีมงานของเราพร้อมดูแลและมอบรอยยิ้มที่มั่นใจให้กับคุณ
