ปวดฟัน เกิดจากอะไร? เช็ก 5 อาการปวดฟัน และวิธีแก้ปวดฟันเบื้องต้น

อาการปวดฟัน คือสัญญาณเตือนสำคัญที่ร่างกายบอกว่าสุขภาพช่องปากกำลังมีปัญหา ความเจ็บปวดมีตั้งแต่เสียวฟันเบา ๆ ไปจนถึงปวดรุนแรงจนนอนไม่หลับ หลายคนเลือกทนปวดหรือกินยาแก้ปวด ซึ่งเป็นเพียงการบรรเทาที่ปลายเหตุ หัวใจสำคัญของการแก้ปัญหานี้คือ “การรู้สาเหตุ” ที่แท้จริง ไม่ว่าจะเป็นฟันผุ ฟันคุด หรือเหงือกอักเสบ เพื่อนำไปสู่ “การรักษาที่ตรงจุด” ซึ่งเป็นวิธีแก้ปัญหาอาการปวดฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด โดยในบทความนี้ Teeth Talk Dental Clinic จะพาคุณไปทำความเข้าใจสาเหตุ และวิธีรับมือที่ถูกต้อง เพื่อกลับมามีสุขภาพฟันและช่องปากที่แข็งแรงในระยะยาว
เช็กลิสต์ 5 อาการปวดฟัน คุณกำลังปวดแบบไหน?

การสังเกต “ลักษณะ” การปวด จะช่วยให้ทันตแพทย์วินิจฉัยสาเหตุได้แม่นยำขึ้น ลองมาเช็กกันว่าอาการปวดฟันที่คุณกำลังเป็นอยู่ ตรงกับแบบไหนมากที่สุด
1. ปวดจี๊ด ๆ หรือเสียวฟัน
เป็นอาการปวดที่เกิดขึ้นเร็วและหายเร็ว มักถูกกระตุ้นเมื่อทานของร้อนจัด เย็นจัด รสเปรี้ยว หรือรสหวานจัด เป็นสัญญาณเตือนเริ่มต้นว่าฟันอาจจะเริ่มผุ คอฟันสึก หรือมีรอยร้าวเล็ก ๆ ที่ผิวฟัน
2. ปวดตุบ ๆ ตลอดเวลา
อาการปวดต่อเนื่องที่รบกวนการใช้ชีวิต อาจปวดมากจนนอนไม่หลับ หรือรู้สึกเหมือนมีอะไรมาเต้นตุบ ๆ ในฟัน นี่เป็นสัญญาณอันตรายว่าการอักเสบอาจลุกลามเข้าไปถึงโพรงประสาทฟันแล้ว
3. ปวดรุนแรงเมื่อเคี้ยวอาหาร หรือกัดฟัน
จะไม่ปวดถ้าอยู่เฉย ๆ แต่จะปวดแปลบขึ้นมาทันทีเมื่อออกแรงบดเคี้ยว หรือแม้แต่ตอนกัดฟันเบา ๆ อาการนี้มักเกิดจากฟันแตก ฟันร้าว วัสดุอุดฟันเก่าแตกเสียหาย หรือปลายรากฟันอักเสบ
4. ปวดร้าวไปบริเวณอื่น
ความปวดที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ฟันซี่เดียว แต่อาจลามไปบริเวณอื่น เช่น ปวดร้าวขึ้นไปถึงขมับ ปวดฟันจี๊ดขึ้นสมอง หรือปวดฟันกรามไปถึงบริเวณกกหูและขากรรไกร มักเกิดจากการอักเสบที่รุนแรงของฟันกรามซี่ในสุด หรือฟันคุด
5. ปวดหนึบ ๆ ร่วมกับเหงือกบวม
เป็นอาการปวดแบบตื้อ ๆ รำคาญ ๆ ไม่รุนแรงเท่าปวดตุบ ๆ แต่จะรู้สึกได้ว่าเหงือกบริเวณนั้นบวม แดง หรือมีเลือดออกง่ายเวลากดหรือแปรงฟัน สาเหตุหลักมักมาจากเหงือกอักเสบ หรือมีเศษอาหารติดแน่นในซอกเหงือก
6 สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอาการปวดฟัน

เมื่อรู้ลักษณะอาการเบื้องต้นแล้ว มาดูกันว่าสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้เกิดอาการปวดฟันเหล่านั้นมาจากอะไรได้บ้าง
1. ฟันผุ (สาเหตุยอดฮิต)
ฟันผุเป็นสาเหตุยอดนิยมที่พบได้ในทุกวัย เกิดจากแบคทีเรียในช่องปากสร้างกรดมาย่อยสลายผิวฟันจนกลายเป็นรู หากรูผุยังตื้นๆ อาจแค่เสียวฟัน แต่ถ้าลึกจนใกล้โพรงประสาทฟัน อาการปวดก็จะยิ่งรุนแรงขึ้น
2. ฟันคุด (ปัญหากวนใจวัยรุ่น)
ฟันกรามซี่ในสุด (ฟันคุด) ที่พยายามจะขึ้นมาแต่มีพื้นที่ไม่พอ หรือขึ้นมาในทิศทางที่ผิดปกติ (เช่น นอนตะแคง) จะไปเบียดฟันซี่ข้างๆ ทำให้เกิดอาการปวดรุนแรงบริเวณกราม และมักทำให้เหงือกโดยรอบอักเสบติดเชื้อได้ง่าย
3. โรคเหงือกอักเสบ และโรคปริทันต์
เกิดจากการสะสมของคราบหินปูนเป็นเวลานานจนเหงือกอักเสบ (Gingivitis) ทำให้ปวดหนึบๆ และมีเลือดออกง่าย หากปล่อยไว้จนการอักเสบลุกลามไปทำลายกระดูกรอบรากฟัน (Periodontitis) ฟันจะเริ่มโยกและปวดมากขึ้น
4. การอักเสบในโพรงประสาทฟัน (Pulpitis)
มักเป็นผลมาจากฟันผุลึกทะลุโพรงประสาท หรือฟันแตก/ร้าวลึก ทำให้เชื้อโรคสามารถเข้าไปในโพรงประสาทฟัน (รากฟัน) ได้โดยตรง เกิดการอักเสบติดเชื้อภายใน ทำให้ปวดตุบ ๆ ตลอดเวลา หรืออาจเกิดหนองที่ปลายรากฟัน
5. ฟันร้าว หรือฟันแตก
อาจเกิดจากอุบัติเหตุ การใช้ฟันผิดประเภท (เช่น เปิดขวด) หรือการเคี้ยวของแข็งมากๆ รอยแตกเหล่านี้อาจมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่จะทำให้ปวดจี๊ดเวลาเคี้ยว และเป็นช่องทางให้เชื้อโรคเข้าไปทำลายโพรงประสาทฟันได้
6. พฤติกรรมส่วนตัว เช่น การนอนกัดฟัน
การนอนกัดฟัน (Bruxism) หรือการกัดเน้นฟันแน่น ๆ เวลาเครียดโดยไม่รู้ตัว จะสร้างแรงมหาศาลต่อตัวฟัน ทำให้ฟันสึก ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อขากรรไกร และอาจทำให้ปวดฟันซี่อื่น ๆ ไปด้วย แม้ว่าฟันซี่นั้นจะไม่ได้ผุก็ตาม
สาเหตุอื่น ๆ ที่อาจทำให้เกิดอาการปวดฟันได้
นอกจาก 6 สาเหตุหลักที่พบบ่อย ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่สร้างความเจ็บปวดและรำคาญใจได้เช่นกัน
- เศษอาหารอัดแน่น : การที่เศษอาหารชิ้นใหญ่ ๆ โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ เข้าไปอัดแน่นในซอกฟัน จะกดให้เหงือกช้ำและอักเสบ ทำให้ปวดบริเวณนั้นมาก
- วัสดุอุดฟันแตกหรือรั่ว : เมื่อวัสดุอุดเก่าเสื่อมสภาพ แตก หรือมีรอยรั่ว จะทำให้สิ่งกระตุ้นและความเย็นเข้าไปถึงเนื้อฟันชั้นในได้ง่ายขึ้น และทำเกิดอาการปวดตามมา
- ฟันสึก : การแปรงฟันแรงเกินไป หรือการทานอาหารรสเปรี้ยวจัดเป็นประจำ ทำให้คอฟันสึกกร่อนจนถึงชั้นเนื้อฟัน และทำให้เกิดอาการเสียวฟันได้ง่าย
ปวดฟันทำยังไง? รวมวิธีแก้ปวดฟันเบื้องต้น

หากปวดฟันกะทันหัน แต่ยังไม่สะดวกไปพบทันตแพทย์ทันที Teeth Talk Dental Clinic มีวิธีแก้อาการปวดฟันเบื้องต้นมาแนะนำ แต่ต้องย้ำว่านี่เป็นเพียง “การระงับปวดชั่วคราว” ไม่ใช่ “การรักษา” ให้หายขาด
1. บ้วนปากด้วยน้ำเกลืออุ่น
ใช้เกลือประมาณครึ่งช้อนชาผสมกับน้ำอุ่น 1 แก้ว อมกลั้วปากค้างไว้ 30 วินาที น้ำเกลือจะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียเบื้องต้นและทำความสะอาดช่องปาก ลดการอักเสบได้เล็กน้อย
2. ประคบเย็น (กรณีปวดร่วมกับอาการบวม)
หากมีอาการปวดร่วมกับแก้มบวม ให้ใช้น้ำแข็งห่อผ้าสะอาดประคบบริเวณข้างแก้มด้านที่ปวด ประมาณ 15-20 นาที ความเย็นจะช่วยให้หลอดเลือดหดตัว ลดอาการบวม และลดปวดได้
3. หลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นอาการ
ในช่วงที่ปวดฟัน ควรงดเว้นอาหารที่กระตุ้นอาการโดยตรง เช่น ของร้อนจัด เย็นจัด หรืออาหารที่มีรสหวานจัดและเปรี้ยวจัด รวมถึงอาหารแข็ง ๆ ที่ต้องใช้แรงเคี้ยวมาก
4. รับประทานยาแก้ปวด (ทานได้ แต่ไม่หายขาด)
สามารถรับประทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการได้ เช่น พาราเซตามอล หรือยาในกลุ่ม NSAIDs (เช่น Ibuprofen, Ponstan) เพื่อลดอาการปวดและอักเสบ แต่ควรปรึกษาเภสัชกรก่อนใช้ยา และห้ามซื้อยาฆ่าเชื้อทานเองเด็ดขาด
5. พบทันตแพทย์เพื่อแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ
วิธีที่ดีที่สุดและยั่งยืนที่สุดคือการไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริง ทันตแพทย์จะสามารถวินิจฉัยและวางแผนการรักษาที่ตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นการอุดฟัน รักษารากฟัน ขูดหินปูน หรือผ่าฟันคุด เพื่อให้อาการปวดหายขาดและไม่ลุกลาม
อย่าทนปวด! แก้ปัญหาฟันกับ Teeth Talk Dental Clinic
Teeth Talk Dental Clinic เข้าใจความรู้สึกและความกังวลของคนไข้ที่กำลังปวดฟันเป็นอย่างดี เราพร้อมดูแลคุณด้วยจุดแข็งที่ทำให้คนไข้ไว้วางใจ
- ดูแลด้วยความเข้าอกเข้าใจ : เราให้ความสำคัญกับ Soft Skill คุณหมอและทีมงานพร้อมรับฟังปัญหา และดูแลคุณเหมือนคนในครอบครัว เพื่อลดความกลัวและความกังวล
- ทีมทันตแพทย์เฉพาะทาง : เรามีทีมทันตแพทย์เฉพาะทางทุกสาขา พร้อมวินิจฉัยสาเหตุของอาการปวดได้อย่างแม่นยำ แม้เคสจะมีความซับซ้อน
- เทคโนโลยีที่ทันสมัย : เราใช้เครื่องมือทันสมัย เช่น เครื่องสแกน 3 มิติ iTero 5D+ และระบบ X-ray Digital เพื่อการวินิจฉัยและวางแผนการรักษาที่แม่นยำ
- บริการทันตกรรมครบวงจร : ไม่ว่าคุณจะปวดฟันจากสาเหตุใด เรามีบริการรองรับทั้งหมด ตั้งแต่อุดฟัน ขูดหินปูน ผ่าฟันคุด ไปจนถึงการรักษารากฟัน
- ใช้สิทธิประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย : สำหรับบริการอุดฟัน ถอนฟัน ขูดหินปูน และผ่าฟันคุด (ตามวงเงินที่กำหนด) คุณสามารถใช้สิทธิ์ประกันสังคมได้ทันที เพียงยื่นบัตรประชาชน
อย่าปล่อยให้อาการปวดฟันมารบกวนการใช้ชีวิต หากคุณกำลังมองหาคลินิกทำฟันที่พร้อมดูแลคุณด้วยความจริงใจ สามารถติดต่อเข้ามานัดหมายกับคุณหมอของเราได้เลย
รวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับอาการปวดฟัน (FAQ)
Teeth Talk Dental Clinic ได้รวบรวมคำถามยอดฮิตที่คนไข้มักสงสัยเมื่อมีอาการปวดฟัน มาตอบให้หายข้องใจกันตรงนี้
ปวดฟันแบบไหนอันตรายถึงชีวิต?
คืออาการปวดฟันที่เกิดจากการติดเชื้อรุนแรง (Ludwig’s Angina) จนบวมลามไปที่ใต้คาง ใต้ลิ้น หรือบริเวณคอ ทำให้หายใจลำบาก กลืนน้ำลายไม่ได้ และอ้าปากไม่ขึ้น ถือเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องรีบพบแพทย์ทันที
พอนสแตน 500 (Ponstan) กินแก้ปวดฟันได้ไหม?
สามารถกินเพื่อ “ระงับอาการปวด” ชั่วคราวได้ เพราะเป็นยาในกลุ่ม NSAIDs ที่ช่วยลดปวดและลดการอักเสบได้ดี แต่ไม่สามารถ “รักษา” สาเหตุของอาการปวดได้ และควรทานหลังอาหารทันทีเพื่อลดการระคายเคืองกระเพาะ
ทําไมอาการปวดฟันถึงแย่ลงตอนกลางคืน?
เพราะเมื่อเรานอนราบ เลือดจะไหลเวียนไปที่ศีรษะมากขึ้น ทำให้มีแรงดันในโพรงประสาทฟันที่กำลังอักเสบสูงขึ้น จึงรู้สึกปวดตุบ ๆ ได้ชัดเจนและรุนแรงกว่าตอนยืนหรือนั่ง
เหงือกบวมอมน้ำเกลือช่วยได้ไหม?
ช่วย “บรรเทา” อาการได้เล็กน้อย การอมน้ำเกลืออุ่น ๆ ช่วยทำความสะอาดและลดเชื้อแบคทีเรียในช่องปากเบื้องต้น แต่ “ไม่สามารถรักษา” สาเหตุที่ทำให้บวมได้ หากบวมจากรากฟันอักเสบหรือฟันคุด ยังคงต้องพบทันตแพทย์
ปวดฟันจนแก้มบวมเกิดจากอะไร?
มักเกิดจากการติดเชื้อที่ลุกลามอย่างรุนแรงจากปลายรากฟัน (เกิดเป็นหนองปลายราก) หรือการอักเสบจากฟันคุด ทำให้การติดเชื้อขยายวงกว้างออกไปที่เนื้อเยื่อบริเวณแก้ม ควรรีบพบทันตแพทย์เพื่อระบายหนอง
สรุป ปวดฟัน คือสัญญาณเตือน ห้ามปล่อยทิ้งไว้
อาการปวดฟันจึงเป็นสัญญาณเตือนที่ร่างกายส่งมาว่าช่องปากกำลังมีปัญหา ห้ามละเลยหรือคิดว่าเดี๋ยวก็หายเอง การทานยาแก้ปวดเป็นเพียงการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุเท่านั้น การรีบไปพบทันตแพทย์เพื่อค้นหาสาเหตุและรักษาที่ต้นตอ คือวิธีที่ดีที่สุดที่จะป้องกันไม่ให้ปัญหาลุกลาม สำหรับใครที่มีอาการปวดฟัน ไม่ว่าจะลักษณะใด สามารถติดต่อสอบถามหรือนัดหมายที่ Teeth Talk Dental Clinic ได้เลยที่เบอร์โทร 099-113-8103 หรือ Line : @teethtalk หรือ Facebook Page : “Teeth Talk Dental Clinic คลินิกทันตกรรม จัดฟัน ทำฟัน” ทีมงานของเราพร้อมดูแลและมอบรอยยิ้มที่มั่นใจให้กับคุณ” เข้าไปอย่างเป็นธรรมชาติ

































