
ปัญหาฟันห่างเป็นเรื่องที่ลดทอนความมั่นใจของใครหลายคน ทำให้ไม่กล้ายิ้มหรือพูดคุยอย่างเต็มที่ หลายคนอาจสงสัยว่าฟันห่างเกิดจากอะไร มีอันตรายหรือไม่ และมีวิธีรักษาแบบไหนบ้างที่เหมาะกับเรา โดยเฉพาะการ “อุดปิดช่องว่างระหว่างฟัน” จะเป็นทางเลือกที่ดีหรือเปล่า ไม่ต้องกังวลไป เพราะบทความนี้ Teeth Talk Dental Clinic ได้รวบรวมทุกคำตอบที่คุณอยากรู้มาไว้ครบจบในที่เดียว เพื่อช่วยให้คุณวางแผนเรียกคืนรอยยิ้มที่สวยงามกลับมาอีกครั้ง
ฟันห่างคืออะไร มีลักษณะแบบไหน?
ฟันห่าง (Diastema) คือภาวะที่มีช่องว่างระหว่างซี่ฟันมากกว่า 0.5 มิลลิเมตร ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับฟันทุกตำแหน่งในช่องปาก แต่บริเวณที่พบบ่อยและส่งผลกระทบต่อความสวยงามมากที่สุดคือช่องว่างระหว่างฟันหน้า 2 ซี่บน ภาวะนี้สามารถพบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ โดยแต่ละคนก็จะมีขนาดของช่องว่างและความกังวลใจที่แตกต่างกันออกไป
สาเหตุของฟันห่าง เกิดจากอะไรได้บ้าง?

ปัญหาฟันห่างเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยร่วมกัน ทั้งจากโครงสร้างร่างกายและพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน
ปัจจัยด้านพันธุกรรมและโครงสร้าง
สาเหตุหลักที่ควบคุมได้ยากคือเรื่องของพันธุกรรม เช่น การมีขนาดของฟันซี่เล็กเกินไปเมื่อเทียบกับขนาดของขากรรไกรที่ใหญ่ ทำให้มีพื้นที่เหลือและเกิดเป็นช่องว่างขึ้น หรือในบางกรณีอาจเกิดจากเนื้อเยื่อที่ยึดระหว่างริมฝีปากบนกับเหงือก (Labial Frenum) มีขนาดหนาหรือเกาะในตำแหน่งที่ต่ำเกินไปจนเข้ามาแทรกระหว่างฟันหน้า
พฤติกรรมที่ส่งผลต่อฟัน
พฤติกรรมบางอย่างที่ทำซ้ำ ๆ จนเป็นนิสัยสามารถสร้างแรงผลักดันให้ฟันค่อย ๆ เคลื่อนที่ออกจากกันได้ เช่น ภาวะลิ้นดุนฟัน ที่ใช้ลิ้นดันฟันหน้าเวลาพูดหรือกลืนแทนที่จะจรดบนเพดานปาก หรือพฤติกรรมการดูดนิ้วในวัยเด็ก ซึ่งแรงดันที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องนี้เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดฟันห่างได้
การสูญเสียฟัน
เมื่อมีการสูญเสียฟันไป ไม่ว่าจะจากการถอนฟันหรืออุบัติเหตุ แล้วไม่ได้ใส่ฟันปลอมทดแทน จะทำให้เกิดช่องว่างขนาดใหญ่ขึ้น ฟันซี่ข้างเคียงที่ขาดหลักยึดก็จะค่อย ๆ เคลื่อนตัว หรือล้มเข้ามาในช่องว่างนั้น ทำให้เกิดปัญหาฟันห่างและฟันล้มตามมาได้
ปัญหาสุขภาพเหงือก
โรคเหงือกอักเสบในระยะรุนแรง หรือโรคปริทันต์อักเสบ เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่น่ากังวล การอักเสบจะทำให้กระดูกที่รองรับรากฟันถูกทำลายลง ทำให้เหงือกร่นและฟันเริ่มโยก เมื่อการยึดเกาะไม่ดีเหมือนเดิม ฟันจึงสามารถเคลื่อนที่ออกจากกันจนเกิดเป็นช่องว่างได้
ฟันห่างมีข้อเสียอย่างไร อันตรายไหม?
โดยทั่วไปแล้ว ฟันห่างไม่ได้ถือว่าเป็นภาวะที่อันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพ แต่ก็ส่งผลเสียหลายอย่างที่ไม่ควรมองข้าม เช่น
- เศษอาหารมักจะเข้าไปติดในช่องว่างได้ง่าย : ทำให้ทำความสะอาดยาก และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดฟันผุและโรคเหงือกอักเสบ
- อาจส่งผลต่อการออกเสียง : ทำให้พูดหรือออกเสียงบางคำได้ไม่ชัดเจน
- อาจส่งผลกระทบต่อบุคลิกภาพและความมั่นใจ : ซึ่งเป็นปัญหาหลักที่ทำให้คนส่วนใหญ่ตัดสินใจเข้ารับการรักษา
รวมวิธีการรักษาฟันห่าง ปิดช่องว่างระหว่างฟัน

ข่าวดีคือปัญหาฟันห่างสามารถแก้ไขได้ด้วยเทคโนโลยีทางทันตกรรมที่หลากหลาย ซึ่งทันตแพทย์จะช่วยเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ
1. การจัดฟัน (Orthodontics) เพื่อแก้ปัญหาที่โครงสร้าง
การจัดฟันคือวิธีแก้ไขปัญหาฟันห่างที่ยั่งยืนและตรงจุดที่สุด เพราะเป็นการเคลื่อนย้ายฟันทั้งซี่ให้กลับมาชิดกันอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับกรณีที่มีฟันห่างหลายตำแหน่ง มีช่องว่างขนาดใหญ่ หรือมีปัญหาการสบฟันอื่น ๆ ร่วมด้วย โดยมีเครื่องมือให้เลือกหลากหลาย เช่น จัดฟันเหล็กแบบดั้งเดิม จัดฟันดามอนที่เจ็บน้อยและเสร็จเร็ว หรือจัดฟันใส ที่ตอบโจทย์ด้านความสวยงาม
2. การอุดปิดช่องว่างระหว่างฟัน (Composite Bonding)
การอุดปิดช่องว่างระหว่างฟัน คือทางเลือกที่รวดเร็วและได้รับความนิยมอย่างสูงสำหรับฟันหน้าที่มีช่องว่างไม่ใหญ่มาก โดยทันตแพทย์จะใช้วัสดุอุดฟันสีเหมือนฟัน (Composite Resin) มาตกแต่งและเติมขนาดของซี่ฟันด้านข้างเพื่อปิดช่องว่างให้สนิท เป็นวิธีที่ไม่ต้องกรอฟัน ทำเสร็จได้ในครั้งเดียว และมีค่าใช้จ่ายไม่สูง
3. การทำวีเนียร์ (Dental Veneers)
วีเนียร์คือการใช้วัสดุเซรามิกบาง ๆ ที่ออกแบบมาเฉพาะบุคคล มาแปะปิดทับที่ผิวหน้าฟัน เหมาะสำหรับเคสที่ต้องการแก้ไขทั้งช่องว่าง รูปร่าง และสีของฟันไปพร้อม ๆ กัน เพื่อให้ได้รอยยิ้มที่สวยงามสมบูรณ์แบบ เป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์ด้านความสวยงามสูงและมีความทนทาน
4. การทำครอบฟันหรือสะพานฟัน
ในกรณีที่ช่องว่างมีขนาดใหญ่มากซึ่งเกิดจากการสูญเสียฟันไปทั้งซี่ การทำครอบฟัน หรือสะพานฟัน (Dental Bridge) จะเป็นทางเลือกที่เหมาะสม โดยเป็นการสร้างฟันปลอมขึ้นมาเพื่อยึดกับฟันซี่ข้างเคียงและเติมเต็มช่องว่างนั้นให้กลับมาใช้งานบดเคี้ยวได้ตามปกติ
5. การผ่าตัดตกแต่งเหงือก
สำหรับกรณีที่ฟันห่างเกิดจากเนื้อเยื่อเหงือกที่ยึดเกาะผิดปกติ (Frenum) ทันตแพทย์อาจพิจารณาทำการผ่าตัดเล็กเพื่อนำเนื้อเยื่อส่วนเกินนั้นออกไป (Frenectomy) ซึ่งมักจะทำร่วมกับการจัดฟันเพื่อให้ฟันสามารถเคลื่อนมาชิดกันได้อย่างสมบูรณ์
เลือกรักษาฟันห่างอย่างไรให้เหมาะสมกับตัวเอง?
การเลือกวิธีรักษาฟันห่างที่ดีที่สุดนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยประกอบกัน ทั้งขนาดและตำแหน่งของช่องว่าง สาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหา งบประมาณ ระยะเวลาที่คาดหวัง และเป้าหมายการรักษาของคนไข้แต่ละคน ทางที่ดีที่สุดคือการเข้ามาปรึกษาทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการตรวจประเมินอย่างละเอียด ซึ่งจะช่วยให้คุณได้รับแผนการรักษาที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการของคุณมากที่สุด
ทำไมต้องรักษาฟันห่างที่ Teeth Talk Dental Clinic

การตัดสินใจเลือกคลินิกคือหัวใจสำคัญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และนี่คือเหตุผลที่ Teeth Talk Dental Clinic คือคำตอบสำหรับคุณ
- ทางเลือกการรักษาที่ครบวงจร : เรามีบริการรักษาฟันห่างทุกรูปแบบ ตั้งแต่การอุดปิดช่องว่าง การทำวีเนียร์ ไปจนถึงการจัดฟันทุกประเภท ทำให้คุณสามารถเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุดได้ในที่เดียว
- ทีมทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ : ทุกเคสได้รับการดูแลและวางแผนโดยทันตแพทย์ที่มีประสบการณ์และความชำนาญเฉพาะทาง มั่นใจได้ในผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัย
- เทคโนโลยีที่ทันสมัย : เราใช้เทคโนโลยีการสแกนฟัน 3 มิติ (iTero) ในการวางแผนการรักษา ทำให้คุณเห็นภาพผลลัพธ์จำลองได้ตั้งแต่ก่อนเริ่ม และช่วยให้การรักษามีความแม่นยำสูงสุด
- ราคาที่โปร่งใสและเข้าถึงได้ : เราแจ้งรายละเอียดค่าใช้จ่ายอย่างชัดเจน พร้อมโปรแกรมแบ่งชำระที่ช่วยให้คุณวางแผนการเงินได้อย่างสบายใจ
ที่คลินิกทำฟันของเรา เราเชื่อว่าทุกคนสามารถมีรอยยิ้มที่สวยงามและมั่นใจได้ หากคุณกำลังกังวลกับปัญหาฟันห่าง สามารถนัดหมายเพื่อเข้ามาปรึกษาและวางแผนการรักษากับเราได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
สามารถเช็กอัตราค่าบริการทำฟัน และโปรโมชันล่าสุดได้ที่นี่เลย
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับฟันห่าง (FAQ)
มาถึงช่วงตอบคำถามยอดฮิตที่หลายคนอาจยังสงสัยเกี่ยวกับปัญหาฟันห่าง
ฟันห่างรักษาด้วยตัวเองได้ไหม?
ไม่สามารถทำได้ การพยายามใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อดึงฟันด้วยตัวเองนั้นอันตรายอย่างยิ่งและอาจทำให้ฟันเสียหายถาวรได้ การรักษาฟันห่างจำเป็นต้องอยู่ภายใต้การดูแลของทันตแพทย์เท่านั้น
รักษาแล้วจะกลับมาห่างอีกไหม?
มีโอกาสเกิดขึ้นได้หากไม่ดูแลอย่างถูกวิธี เช่น ไม่ใส่รีเทนเนอร์อย่างสม่ำเสมอหลังจัดฟัน หรือยังคงมีพฤติกรรมที่ทำให้เกิดฟันห่างอยู่ การปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์จึงเป็นสิ่งสำคัญ
ฟันห่างควรจัดฟันไหม?
การจัดฟันเป็นทางเลือกการรักษาที่ดีและยั่งยืนที่สุด โดยเฉพาะในกรณีที่มีฟันห่างหลายซี่ ช่องว่างกว้าง หรือต้องการแก้ไขการเรียงตัวของฟันโดยรวมให้สวยงามไปพร้อมกัน
จัดฟันแก้ฟันห่างนานหรือไม่?
ระยะเวลาจะขึ้นอยู่กับความซับซ้อนและขนาดของช่องว่าง โดยทั่วไปอาจใช้เวลาประมาณ 1-2 ปี ซึ่งทันตแพทย์จะเป็นผู้ประเมินระยะเวลาที่ชัดเจนให้หลังจากตรวจประเมินแล้ว
สรุป ฟันห่างไม่ใช่ปัญหาที่ต้องกังวลอีกต่อไป
ปัญหาฟันห่าง แม้จะไม่เป็นอันตรายร้ายแรง แต่ก็ส่งผลกระทบต่อความมั่นใจและสุขภาพช่องปากได้ไม่น้อย อย่างไรก็ตาม ด้วยเทคโนโลยีทางทันตกรรมในปัจจุบันทำให้มีทางเลือกในการรักษาที่หลากหลายและมีประสิทธิภาพ การเข้าปรึกษาทันตแพทย์เพื่อหาวิธีแก้ไขที่เหมาะสมกับตัวเอง คือจุดเริ่มต้นของการเรียกคืนรอยยิ้มที่สวยงามและมั่นใจกลับคืนมา หากคุณพร้อมที่จะบอกลาปัญหาฟันห่าง สามารถติดต่อเราได้ที่ เบอร์โทร 099-113-8103 หรือ Line : @teethtalk หรือ Facebook Page : “Teeth Talk Dental Clinic คลินิกทันตกรรม จัดฟัน ทำฟัน” ทีมงานของเราพร้อมดูแลและมอบรอยยิ้มที่มั่นใจให้กับคุณ

































